ชาวเลราไวย์วอนภาครัฐรื้อถอนเขื่อนกันคลื่น ชี้ไร้ประโยชน์แถมทำลายสัตว์น้ำขนาดเล็ก

ภูเก็ต - ช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ค.61) ที่ห้องประชุมชั้น 2 เทศบาลตำบลราไวย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะร่วมประชุมและลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนของผู้แทนชาวเลราไวย์ และแก้ปัญหาเรื่องการรื้อถอนเขื่อนกันคลื่นชุมชนชาวเลราไวย์

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2561, เวลา 16:51 น.

นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนเครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต โดยมีนายอธิวัฒน์ ยอดหวาน ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต, นายนิกร ปภากิจยศพัฒน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์, นายศุภชัย นาวิกภูมิ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต, นายนิรันดร์ หยังปาน ผู้แทนชุมชนชาวเลย์ราไวย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า ตามมติที่ประชุมที่อ้างถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มอบอำนาจให้นายถาวรวัฒน์ เป็นประธานในการประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้แทนเครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ดินทำกินและได้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติมอบให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ประสานหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต, องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, เทศบาลตำบลราไวย์, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่และแก้ไขปัญหาเรื่องเขื่อนกันคลื่นในชุมชนชาวเลราไวย์

ด้านนายนิรันดร์ ก็ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ชุมชนมีการจัดทำประชาคมในพื้นที่แล้ว ซึ่งเสียงส่วนมากของประชาชนมีความเห็นว่าไม่ต้องการเขื่อนและต้องการให้มีการรื้อถอน โดยเขื่อนดังกล่าวมีความยาวประมาณ 125 เมตร และแนวกำแพงบางส่วนได้พังทลายลง โดยให้เหตุผลว่าในช่วงที่มีมรสุมน้ำทะเลที่ซัดมาปะทะกับสันเขื่อน ซึ่งจะทำลายในเรื่องของทรัพยากรทางทะเลต่าง ๆ รวมไปถึงสัตว์น้ำขนาดเล็กที่อยู่บริเวณแนวหน้าชายหาด อีกทั้งเขื่อนดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่ประการใด

นายถาวรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า คณะเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนของผู้แทนชาวเลราไวย์ ในประเด็น เขื่อนกันคลื่นราไวย์ใครเป็นผู้สร้างและใครเป็นผู้อนุญาตให้มีการดำเนินการก่อสร้าง รวมถึงเขื่อนดังกล่าวมีการใช้ประโยชน์อย่างไร ซึ่งผู้แทนชาวเลราไวย์ขอให้มีการรื้อถอนเขื่อน ซึ่งอาจจะใช้งบประมาณในโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล งบประมาณจำนวน 2 แสนบาท และ ในกรณีหากมีการรื้อถอนเขื่อน ต้องมีการขอความเห็นจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ที่ 15 และอนุกรรมการทางทะเลและชายฝั่ง (ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการ) ถึงมาตรการป้องกันผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่ง รวมไปถึงเรื่องของการออกเอกสารสิทธิ จัดสรรที่ดินทำกิน และเรื่องของโฉนดชุมชน ซึ่งทางคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้มีการประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปในการดำเนินการต่อไป

ในส่วนของประเด็นเรื่องเขื่อนกันคลื่น ก่อนหน้านี้ได้เกิดเป็นข้อพิพาทมาแล้ว ระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานภาครัฐเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2560 นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในฐานะที่ปรึกษาด้านการกัดเซาะชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสุทา ประทีป ณ ถลาง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต และชาวบ้านหาดสุรินทร์ เดินสำรวจบริเวณชายหาดสุรินทร์ที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมกับย้ำว่าโครงการสร้างเขื่อนคือการทำลายทรัพยากรชายฝั่งอย่างรุนแรง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ข้อมูลจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่