วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 14.35น. นางหนูคล้าย สังห์แก้วอายุ 55ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.กมลา ได้ไปเบิกเงินที่ธนาคารเป็นเงินสดจำนวน 130,000 บาทเพื่อนำเงินไปรักษาสามีที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล จากนั้นได้ขี่มอเตอร์ไซค์สามล้อสกายแลป มุ่งหน้ากลับบ้านโดยถุงวางเงินสดไว้ในถุงแขวนไว้หน้ารถ
นายพนมศักดิ์ อัยราชธนารักษณ์ อายุ 60 ชาวบ้านกมลา มีอาชีพขายของหน้าหาด (ประเภทเสื้อผ้า และของเด็กเล่นชายหาด) ได้เห็นเหตุการณ์ตลอดตั้งแต่ที่นางหนูคล้ายขับรถเข้ามาพูดคุยกับญาติ เล่าว่า นางหนูคล้ายได้กดเงินสดมาจากธนาคารใกล้บ้านในพื้นที่ ต.กมลา ก่อนกลับเข้าบ้านได้แวะไปมาหาญาติที่หน้าโรงพักกมลา ซึ่งค้าขายอยู่หน้าริมหาดกมลา ในขณะนั้นเองเกิดมีฝนตกหนัก เมื่อฝนหยุดตกนางหนูคล้ายได้ขับรถออกไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระเป๋าเงินหล่นได้ตกลงจากรถสามล้อ
ส่วนนางหนูคล้ายกลับไปถึงบ้านไม่เจอกระเป๋า เมื่อรู้ว่ากระเป๋าได้หายไปถึงกับเป็นลมล้มพับ และให้ญาติช่วยกันหาหลายรอบก็ไม่เจอ
กระทั่ง เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ด.ญ ปิยะรัตน์ บุตรเเขก หรือน้องนูลิต้า อายุ 9 ขวบนักเรียนป.3 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล(ตันติวิท)ไปเจอกระเป๋าที่มีผู้ทำหล่นไว้ โดยที่ไม่ทราบว่าเป็นกระเป๋าของใครและไม่ได้เปิดดูว่าข้างในมีอะไร
จากนั้นได้หิ้วมาให้ผู้ปกครองซึ่งเป็นหนึ่งในแม่ค้าที่ขายของบนชายหาด โดยมีโทรศัพท์เสียบอยู่ด้านนอกของกระเป๋าเมื่อตรวจสอบโทรศัพท์จึงทราบว่ามีเป็นโทรศัพท์ของนางหนูคล้าย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีกับพ่อค้าแม่ค้าบริเวณดังกล่าว
“ผมเห็นเขาขับรถมาวนอย่างน้อยสองรอบ แต่ยังไม่ทราบว่าเขาทำกระเป๋าหาย จนกระทั่งมาทราบในภายหลังว่าน้องนูลิต้าเก็บได้ พอเขาขับรถกลับมาอีกรอบแม่ของน้องนูลิต้าได้ตะโกนเรียกว่าพบกระเป๋าแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ยิน จนกระทั่งเขากลับไปที่บ้าน”
“จากนั้นผู้ปกครองของน้องนูลิต้าได้ยินเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าจึงหยิบมารับสาย แล้วแจ้งให้ปลายสายทราบว่า ตนได้เก็บกระเป๋าเงินเอาไว้ โดยไม่รู้ว่าข้างในกระเป๋ามีเงินสดถึง130,000 บาทถ้วนและทองคำหนักรวม 6 บาท ด้วยความดีใจนางหนูคล้าย ถึงกับเข่าอ่อนเเละร้องไห้ รีบไปรับกระเป๋าคืนทันที และได้มอบเงินให้น้องนูลิต้า จำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณ โดยทำพิธีรับมอบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กมลา เป็นที่เรียบร้อย” นายพนมศักดิ์ กล่าว
- ขอบคุณที่มา จากทีมข่าวกมลาดิจิตอลทีวี -
