บ่ายวันนี้ (9 ก.พ. 61) นางสาวเฉลิมทรัพย์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ยืนยันว่ากับ ข่าวภูเก็ต ว่าได้ “ทางเราได้ทราบเรื่องนี้แล้ว และยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากกระบวนการการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเฟส 4 ของทางเทศบาลเมืองป่าตอง”
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2560 นั้น นายกป่าตองชี้แจงว่า โครงการบำบัดนํ้าเสียในปัจจุบัน มีกำลังพอที่จะบำบัดนํ้าทั้งหมดที่ได้รับมาจากสถานประกอบการในพื้นที่ แต่สำหรับช่วงพีคที่สุดของหน้าไฮซีซั่นอาจมีปริมาณนํ้าเสียมากกว่าปกติจนถึงขั้นล้นเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ร้านอาหารและโรงแรมบางส่วนยังปล่อยนํ้าเสียอย่างผิดกฎหมาย
จึงเป็นเหตุให้ทางเทศบาลดำเนินการวางแผนพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโรงบำบัดนํ้าเสีย เป็นโครงการระยะที่ 4 โดยการเพิ่มความจุของถังบำบัดเป็นถังขนาดใหญ่จำนวน 2 ถังแทนอันเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2532 ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 125 ล้านบาท
ด้านเจ้าหน้าที่ช่างของฝ่ายกองช่างสุขาภิบาล เทศบาลเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า สำหรับระยะเวลาในการติดตั้งถังบำบัดนํ้าอันใหม่นั้นคาดว่าจะใช้เวลาติดตั้งจนแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
"ทั้งนี้ ยอมรับว่าขณะก่อสร้างนั้น มันอาจจะมีผลกระทบทำให้น้ำเสียหลุดลอดลงคลองไหลลงสู่ทะเลบ้าง เนื่องจากบางครั้งช่างต้องมีการปิดระบบกำจัดน้ำเสีย เช่น ปิดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ทางเราได้เรียกผู้รับเหมามาคุยแล้ว ว่าให้ดำเนินการก่อสร้างอย่างรัดกุมและส่งผลกระทบน้อยที่สุด สำหรับโครงการนี้มีกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 20 เดือน ประมาณช่วงปลายปี 2562 ซึ่งเราได้กำชับทางช่างผู้รับเหมาแล้วว่า ให้เร่งงานติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสียให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2561 นี้ ก่อนที่หน้าฤดูมรสุมจะมาถึง เพราะเราไม่สามารถทำงานในช่วงหน้ามรสุมหรือหน้าฝนได้” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
ส่วนสาเหตุที่ผู้รับเหมาต้องปฏิบัติงานในช่วงกลางวันนั้น เนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลน้อย และจากข้อมูลที่มีหาดป่าตองจะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วงเช้าและเย็น เพราะฉะนั้นเวลาช่วงกลางวันจะเหมาะสมที่สุด นายกป่าตองระบุ “อยากเร่งให้ระบบบำบัดน้ำเสียเสร็จเร็วที่สุดเพื่อประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียของเทศบาลในระยะยาว”
นายกเฉลิมลักษณ์ ยืนยันอีกว่า ทางเทศบาลเมืองป่าตองจะดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ว่ามีการปล่อยนํ้าเสียผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าว จะถูกปรับค่าเสียภาษีนํ้าเสียที่มากกว่าปกติหลายเท่าตัว ในระหว่างที่ดำเนินการก่อสร้างโรงบำบัดนํ้าเสียนี้
