นำร่างพลทหาร “พาคม” สละชีพเพื่อชาติ ถึงภูเก็ตบ้านเกิดท่ามกลางความโศกเศร้า

ภูเก็ต - นำร่างทหารกล้า สละชีพเพื่อชาติ ถึงภูเก็ตบ้านเกิดแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้า ทหารกล้าเคยพูดไว้ ไม่กลัวความตาย พร้อมไปด้วยความปิติยินดีที่สละชีพเพื่อชาติ

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน 2568, เวลา 10:02 น.

จากกรณีเกิดเหตุ พลทหาร พาคม สุเด็น อายุ 22 ปี พลยิงปืนเล็กกล หมวดปืนเล็กที่ 3 กองร้อยทหารราบที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิง ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน บริเวณพื้นที่บ้านวังหิน ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. 68 และได้มีการประกอบพิธีส่งร่างทหารกล้ากลับมายังบ้านเกิด คือ จังหวัดภูเก็ต อย่างสมเกียรติ 

เมื่อเวลา 21.50 น. ของวันเดียวกันที่ลานสนามฟุตบอลโรงเรียนวัดมงคลวราราม (ในยาง) นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอถลาง พร้อมด้วย นายตฤณ ปัญญาไวยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู นายวิวัฒน์ จินดาพล คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาไทยผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ มารดา พี่สาว และพี่ชายร้องไห้ตลอดเวลา ตลอดจนชาวบ้านจำนวนมาก ท่ามกลางความโศกเศร้า รวมทั้ง มี ร.15 พัน 1 จัดกองทหารเกียรติยศจำนวน 1 หมู่มารอรับศพที่นำร่างมาด้วยเฮลิคอปเตอร์มาถึงยังสนามภายในโรงเรียน

จากนั้นจะเคลื่อนร่างไปยังมัสยิดดารุนอาบีดีน (บางม่าเหลา) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อการอาบน้ำศพ (ฆุซุล ญะนาซะฮ์) ทำความสะอาดร่างกายผู้เสียชีวิตโดยบุคคลที่มีความรู้ด้านศาสนาและเป็นเพศเดียวกัน และการห่อศพด้วยผ้าขาว อีกทั้ง ละหมาดญะนาซะฮ์ (ละหมาดศพ) เป็นการละหมาดพิเศษที่ไม่มีการก้ม-กราบ (รุกูอฺ-สุญูด) โดยจะทำในมัสยิดหรือสถานที่จัดเตรียม ก่อนนำร่างไปฝัง และผู้นำละหมาดและผู้ร่วมละหมาดจะกล่าวดุอาอฺ ขอพรให้ผู้ตายได้รับการอภัยโทษและเข้าสู่สวนสวรรค์ และในเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 จะมีการประกอบพิธีฝังศพตามศาสนาอิสลามที่กุโบร์ใกล้กับมัสยิดบางม่าเหลา อย่างไรก็ตาม พิธีพระราชทานดินฝังศพจะมีขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.68 

BAAN KRU JAY INTERNATIONAL KINDERGARTEN

ด้าน นางประคอง ชลธาร มารดา และ นางสาววรนุช อังครา พี่สาวของพลทหารพาคม เปิดเผยด้วยความโศกเศร้าว่า พลทหารพาคมเป็นผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหาร ทั้งยังกล่าวกับครอบครัวเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุว่า มีข่าวอยู่นะ ไม่กลัวบ้างเหรอ บุตรชายตอบกลับว่า “จะกลัวทำไม ถ้าน้องเป็นอะไรไป แม่ก็สบายแล้ว”

ซึ่งพิธีการทั้งหมดจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เพื่อเชิดชูในความกล้าหาญและจิตวิญญาณแห่งการเสียสละของทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสงบสุขของแผ่นดินไทย


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่