เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 ต.ค.65 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการหาแนวทางการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่มีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางสายหลักกะทู้-ป่าตอง หลังจากความจำเป็นในการาสั่งปิดเส้นทางสายหลักกะทู้-ป่าตอง เนื่องจากเหตุดินสไลด์ที่รับผลกระทบจากฝนตกหนักและอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นหน่วยงานต่าง ๆ ได้บูรณาการจัดหาเส้นทางสำรวจทั้งเส้นทางเดินเท้า และเส้นทางรถยนต์ รวมถึงทางเทศบาลเมืองป่าตอง และมูลนิธิกุศลธรรม ได้มีการจัดรถรับส่งให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เส้นทาง โดยให้นำรถมาจอดก่อนถึงจุดอันตรายแล้วเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 500 เมตร เพื่อไปขึ้นรถที่จะนำไปส่งยังจุดรับส่งพื้นที่ป่าตอง ส่วนขาเข้าเมืองก็จะมีจุดรับส่งเช่นกันเพื่อความปลอดภัย แต่ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงการเปิดภาคเรียน ทำให้ทางจังหวัดต้องเร่งหาแนวทางบรรเทาปัญหาดังกล่าวให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน ในแต่ละวันมีประชาชนต้องจอดรถจักรยานยนต์และเดินทางเท้าไปพื้นที่ป่าตองนับหมื่นราย และจากการวิเคราะห์ความแข็งแรงของชั้นดินเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้ยังมีน้ำใต้ดินในปริมาณที่มาก ซึ่งการวิเคราะห์จากนักธรณีวิทยาของกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเทศบาลเมืองกะทู้ ได้สรุปว่าบริเวณฝั่งเชิงเขามีความแข็งแรงพอที่จะให้รถจักรยานยนต์ผ่านทางได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงพิจารณาให้มีการเปิดใช้เส้นทางสายหลักกะทู้-ป่าตอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้เฉพาะรถจักรยานยนต์สามารถใช้ทางได้เท่านั้น โดยมีการกั้นทางให้เป็นการเดินรถ 2 ช่องจราจร เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้ทาง และจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร บูรณาการดูแลความปลอดให้กับผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการเปิดเส้นทางสายกะทู้-ป่าตอง เป็นการบรรเทาให้ประชาชนได้สัญจรเป็นการชั่วคราว ส่วนรถยนต์หรือรถชนิดอื่นๆ ยังคงต้องใช้เส้นทางเลี่ยง ส่วนเส้นทางสำรอง เส้นทางสำนักสงฆ์บางทอง-ศาลเจ้าพ่อเสือ ทางเทศบาลเมืองป่าตอง และเทศบาลเมืองกะทู้ กำลังเร่งปรับโดยการนำรถแบคโฮเกลี่ยพื้นที่ โดยคาดว่าจะสามารถใช้ทางได้ในอีก 2 วัน ส่วนเส้นทางหลังวัดหลวงปู่สุภา-ฉลอง ทาง อบจ.ภูเก็ต กำลังนำเครื่องจักรเข้าปรับปรุงเส้นทางเช่นเดียวกัน คาดว่าจะเปิดการใช้ทางได้ในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ในระหว่างการเปิดใช้ทางเพื่อการบรรเทาเป็นการชั่วคราวนั้น จะมีการซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายควบคู่กันไป ส่วนแผนในระยะยาว ทางจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานทางหลวงที่ 17 กระบี่ และแขวงทางหลวงภูเก็ต เร่งทำการออกแบบเส้นทาง เพื่อใช้ในการปรับปรุงและเร่งดำเนินการก่อสร้างเส้นทางให้มีความแข็งแรงและถาวรโดยเร็วที่สุด