พลังโซเชียลส่งผลระงับก่อสร้างอาคารบังวิวราไวย์

ภูเก็ต - เทศบาลตำบลราไวย์ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารบ้านพักที่อยู่อาศัย บริเวณทางไปอ่าวเสน และแหลมกระทิง ต.ราไวย์ พบเบื้องต้นอาคารบางส่วนก่อสร้างผิดแบบตามที่ขอ สั่งระงับการก่อสร้างแก้ไขให้ถูกต้อง ด้านทสจ.วัดค่าพิกัดไปตรวจสอบโซนนิ่ง

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 1 สิงหาคม 2560, เวลา 09:11 น.

วานนี้ (31 ก.ค.) ที่เทศบาลตำบลราไวย์ นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์, นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต, นาวาเอก บวร พรมแก้วงาม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต, นายธนะกัญจน์ ธโนปจัยรัตน์ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต, นายสมทรง แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลราไวย์, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก. 2 (ภูเก็ต) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการชี้แจงและหารือร่วมกัน กรณีที่มีสื่อโซเซียลได้มีการแชร์ภาพข่าว การก่อสร้างอาคารบ้านพักหลังดังกล่าว ว่ามีการขออนุญาตการก่อสร้างถูกต้องหรือไม่

จากนั้น ทางเทศบาลตำบลราไวย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่บริเวณการก่อสร้างอาคารบ้านพัก เพื่อตรวจสอบว่าเจ้าของที่ดิน ได้มีการก่อสร้างตามแบบที่ได้รับการอนุญาตหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าของที่ดินได้นำเอกสารหลักฐานที่เป็นโฉนดที่ดินและแบบการก่อสร้างมายื่นต่อทางเทศบาลตำบลราไวย์ โดยได้มีการขออนุญาตก่อสร้างเป็นบ้านพักที่อยู่อาศัย จำนวน 4 หลัง 3 ชั้น ซึ่งทางกองช่าง เทศบาลตำบลราไวย์ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ดิน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แล้วว่าสามารถที่จะก่อสร้างได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย

นายอรุณ กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า อาคารทั้ง 4 หลังที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง มีบางส่วนที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากเทศบาลตำบลราไวย์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 บริเวณที่มีการก่อสร้างนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาต แต่สามารถปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องได้ โดยจะสั่งระงับการก่อสร้างไว้ทั้งหมดก่อน และให้ทางเจ้าของมาดำเนินการปรับปรุงแบบยื่นต่อเทศบาลตำบลราไวย์ใหม่ให้ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนที่ 2 หากพบว่ามีอาคารบางหลังที่ก่อสร้างไม่ถูกต้องตามแบบที่ได้รับอนุญาต และไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องได้ ทางเทศบาลตำบลราไวย์ จะสั่งให้รื้อถอนส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ออกภายใน 30 วัน

ด้านนายเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่อยู่ในข่ายที่ต้องทำรายงานผลกระทบ แต่เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทางเทศบาลตำบลราไวย์จะต้องนำประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปบังคับใช้ เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ติดบริเวณทะเล ซึ่งในประกาศฉบับนี้ ได้แบ่งพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตออกเป็น 9 บริเวณ ในแต่ละบริเวณจะมีข้อกำหนดเรื่องความสูงของอาคาร เรื่องระยะของการถอยร่น อยู่ในบริเวณต่างๆ ส่วนบริเวณที่มีการก่อสร้าง ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ได้ชี้แจงว่าเป็นบริเวณที่ 2 ซึ่งตามประกาศ ได้กำหนดไว้ว่าสามารถก่อสร้างอาคารได้สูงไม่เกิน 12 เมตร แต่ถ้าหากเป็นบริเวณที่ 1 สามารถสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานฯ ได้จับค่าพิกัด GPS ไว้ทั้งหมดแล้ว เพื่อนำไปลงในแผนที่และตรวจสอบว่าบริเวณก่อสร้างนี้อยู่ในบริเวณใด (1 หรือ 2) เพื่อชี้ชัดอีกครั้ง และจากการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารทั้ง 4 หลัง เบื้องต้นพบว่ามีการก่อสร้างเชื่อมเป็นอาคารเดียวกัน ซึ่งถือว่าผิดแบบการก่อสร้างจากที่ขออนุญาตจากเทศบาลตำบลราไวย์

นายธนะกัญจน์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของเอกสารสิทธิ์ว่า ผู้ครอบครองอ้างสิทธิ์ตามโฉนดที่ดิน และนำมาแสดง ซึ่งจากการตรวจสอบตำแหน่งที่ดินกับพื้นที่การก่อสร้าง พบว่า พื้นที่การก่อสร้างดังกล่าวตรงกับตำแหน่งของโฉนดที่ดินของผู้ครอบครอง ซึ่งรายละเอียดอื่นๆ เรื่องที่มาโฉนดหรือ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเอกสารสิทธิ์ที่ยื่นขออนุญาติปลูกสร้างอาคาร นั้นเดิมทีอยู่ในโฉนดที่ดินเลขที่ 96799 เนื้อที่ 30 ไร่ 3 งาน 59.1 ตรว. ออกเมื่อ 10 ส.ค. 53 และมีการแบ่งแยกในภายหลังเป็น 4 แปลง และมีแปลงคงเหลืออีก 1 แปลง รวมประมาณ 5 แปลง 5 โฉนด ส่วนแปลงที่เป็นข่าวนั้นอยู่ในแปลงเลขที่ดิน 14 เป็นจุดทางโค้ง ซึ่งแปลงเลขที่ดิน 14 ได้ถูกแบ่งแยกมาเป็นโฉนดเลขที่ 113311 เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 5 ตารางวา เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 59
ทั้งนี้รายชื่อผู้ครอบครอง ปัจจุบัน ได้ซื้อต่อมาจากผู้ครอบครอบรายเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2559 ก่อนจะมีการก่อสร้าง ซึ่งทราบว่าจะสร้างเป็นบ้านพักอากาศ

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่