พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ คือ กระดาษคล้ายธนบัตรไทยปลอม ฉบับราคา 1,000 บาท จำนวน 18 ใบ และ กระดาษคล้ายธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอม ฉบับละ100 ดอลล่าร์ (หมายเลขประจำธนบัตร LG 44403413 D) จำนวน 36 ใบ โดยของกลางทั้ง 2 ลำดับพบห่อด้วยกระดาษชำระซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าภายในห้องพัก รวมทั้งธนบัตรไทยอื่นๆฉบับละ 1,000 บาท อีก 1 ฉบับ 500 บาทจำนวน 3 ฉบับ และ ธนบัตรฉบับละ 100 ดอลล่าร์ อีก 1 ใบ ธนบัตรอินเดียราคา 100 รูปีย์ 1 ฉบับ และธนบัตรพม่าราคา 200 จ้าดจำนวน 1 ฉบับ ซุกซ่อนในสมุดสีน้ำตาลในตู้เสื้อผ้าภายในห้องพัก
นอกจากนี้ยังมีเครื่องพริ้นเตอร์ ยี่ห้อแคนน่อล สีดำ จำนวน 1 เครื่อง หมึกพิมพ์ กระดาษ A4กระดาษเกียรติบัตร ขนาด A4 กระดาษเกียรติบัตร ขนาด A4 (เจาะเป็นแบบพิมพ์ธนบัตร) และ กระดาษชำระ
พ.ต.ท.นฤบดินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ทำการจับกุมตัวนางสาวลาร์ ลี ยาร์ เดย์ เว พร้อมด้วยของกลาง คือ ธนบัตรไทยปลอมฉบับละ 1,000 บาท หมายเลข 1 B254351 โดยกล่าวหาว่า “มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม” เหตุเกิดที่ตลาดนัดหลาดใหญ่ ถ.ถลาง และได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต (พ.ต.ท.สุชาติ หมีลำพอง) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้นำตัวผู้ต้องหา มาทำการสอบถามขยายผลการจับกุมเนื่องจากมีพฤติการณ์ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะมีธนบัตรปลอมเก็บซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักอีก โดยจากการสอบถามนางสาวลาร์ ลี ยาร์ เดย์ เว ให้การรับว่าที่ห้องพักของตนยังมีธนบัตรปลอมซุกซ่อนอยู่อีกจำนวนหนึ่งจริง
โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ตนเอง พร้อมด้วยนาย กา จา เดอะ ซิง (Ga ja the sing) หรือ นายจา (สัญชาติอินเดีย) อายุประมาณ 25-26 ปี ซึ่งเคยพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักกับตน ได้ไปซื้อธนบัตรปลอม (รายการตรวจยึดที่1-2) ข้างต้นมาจากพื้นที่ จว.พังงา โดยมีนางจิ๋ม (สัญชาติไทย) ไม่ทราบชื่อสกุลจริง อายุประมาณ 38-39 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายขนมในพื้นที่ ต.ป่าตอง เป็นคนนำไปติดต่อซื้อมาและนำมาเก็บไว้ที่ห้องพัก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ให้นางสาวลาร์ ลี ยาร์ เดย์ เว นำไปตรวจสอบที่ห้องพัก เพราะเกรงว่าหากพยานหลักฐานอาจจะถูกโยกย้ายทำลายหรือซ่อนเร้นเสียก่อน ซึ่งผู้ต้องหาสมัครใจและยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบ จนกระทั่งตรวจพบของกลางดังกล่าว ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
พ.ต.ท.นฤบดินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาสามารถพูดและสื่อสารเข้าใจภาษาไทยได้เป็นอย่างดีและได้ยอมรับตลอดข้อกล่าวหา