แก๊งควายเตือนเหยื่ออย่าโลภ

ภูเก็ต - ตร.ถลาง รวบผู้ต้องหาแก๊งควาย ทำทีติดต่อซื้อบ้านก่อนชวนผู้เสียหายเล่นพนันกำถั่ว เสียเงินนับล้านบาท ผู้ต้องหาสารภาพทำเป็นอาชีพร่วมงานกับเครือข่ายหลายจว. ผกก.ถลาง เตือน นักธุรกิจอย่าโลภอาจตกเป็นเหยื่อ

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 15 พฤษภาคม 2560, เวลา 14:18 น.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(15 พ.ค. 60) พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง ร่วมสอบปากคำนายสมชาย อินทวงศ์ อายุ 49 ปี ชาว ต.รัษฎา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันฉ้อโกง เงินสด 1,000,000 บาทของนางสาว เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย โดยการทำทีเข้าไปติดต่อขอซื้อบ้านของผู้เสียหายก่อนชักชวนเล่นการพนันกำถั่ว จนผู้เสียหายเสียเงินนับล้านบาท ก่อนที่ผู้เสียหายจะเอะใจโทรศัพท์ไปปรึกษาเพื่อนก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความ

โดย เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมานางสาว เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ว่า เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 12 พ.ค. ได้ถูกคนร้าย 4 คน ร่วมกันฉ้อโกงเงินสดจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายจดจำคนร้ายได้ โดยวิธีการคือกลุ่มคนร้าย ได้อ้างว่าเป็นนายหน้าและทำทีเข้ามาขอซื้อบ้าน จากนั้นได้ตีสนิทกับผู้เสียหาย ซึ่งในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 11.00 น.คนร้ายได้ใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้าซิตี้ สีเทา ไปรับผู้เสียหายที่บ้านพัก หมู่บ้านการ์เด้นเพลส ม.5 ต.เทกระษัตรี และพูดจาหว่านล้อมให้เล่นพนันกำถั่ว ก่อนจะพาไปถอนเงินที่ธนาคารในตัวเมืองภูเก็ต ก่อนจะพาไปที่ห้องเช่าใน ต.เกาะแก้ว เพื่อเล่นพนันจนนางสาว เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เสียเงินประมาณ 1,000,000 บาท และยังเป็นหนี้อีกประมาณ 900,000 บาท ก่อนทั้งหมดจะแยกย้ายหลบหนีไป โดยหลังรับแจ้ง จนท.ชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายจนทราบว่า คือนาย สมชาย จึงควบคุมตัวได้ที่ซอยเพิ่มสิน ต.รัษฏา ก่อนนำตัวมาขยายผล

ด้าน นายสมชาย ผู้ต้องหา รับสารภาพตนเองได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยร่วมกับอีก 3 คน หลอกลวงนางสาวเอ โดยตนเองนั้นจะทำหน้าที่จัดหา โดยดูจากเหยื่อที่ทำธุรกิจ ต้องการขายบ้านหรือที่ดิน หรืออย่างอื่นแล้วแต่โอกาส ในส่วนของ น.ส.เอ นั้น ตอนแรกทำทีไปซื้อบ้านแต่พยายามตีสนิท หลังจากพูดคุยไม่นานก็ชักชวนไปเล่นการพนัน ซึ่งพบว่า น.ส.เอยอมเล่นการพนัน จึงโทรหาเพื่อร่วมแก็งมาเล่นเป็นตัวละคร 3 คน ประกอบด้วย ผู้จัดการ เซียนการพนัน และนายทุนหรือเสี่ย ซึ่งทั้งหมดมาจากหลายจังหวัด จนได้เงินสดมาประมาณ 1 ล้านบาท ตนเอง ได้ส่วนแบ่ง 270,000 บาท คนอื่นๆ ได้ส่วนแบ่ง 250,000 บาท 1 คน และ 220,000 บาท 2 คน

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนเองเคยต้องโทษ ฉ้อโกงมาแล้ว 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ก่อนต้องโทษได้กระทำการหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งมีทั้งชาวบ้านและนักธุรกิจในลักษณะดังกล่าว 7 ครั้ง ได้เงินหลายล้านบาท เมื่อพ้นโทษมาก็มาทำอีก รวม 3 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ใน 3 ครั้ง สำเร็จ 2 ครั้ง ครั้งที่ผ่านมาหลอกได้เงิน 100,000 กว่าบาท ได้ส่วนแบ่ง 27,000 บาท มาครั้งนี้ ได้มา 1,000,000 บาท ตนเองได้ส่วนแบ่ง 270,000 บาท

โดยนายสมชาย ผู้ต้องหา กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากถึงประชาชนและนักธุรกิจว่าอย่าโลภ หากโลภก็จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างที่ตนกระทำ ทั้งนี้เท่าที่ตนเองทราบ ในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงยังมีอีกหลายรายที่ใช้วิธีการเช่นเดียวกับตน

ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ กล่าวว่า อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ให้ระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัว เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทั้งซื้อขายบ้าน รถ ที่ดิน หลังจากซื้อขายกันแล้วก็จะชักชวนหรือหลอกไปเล่นการพนัน โดยหลอกให้ตายใจหรือเชื่อมั่นว่าได้แน่ๆ ซึ่งถ้ามีสติ ไม่โลภก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในรายนี้ถือว่าเคราะห์ที่รู้สึกไม่ดีและแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่คิดเล่นต่อเพื่อถอนทุนคืน ซึ่งอาจจะเสียมากกว่า 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ต้องหาอีก 3 รายที่ยังหลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อและตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่