โอละพ่อ! สามีภรรยาชาวอังกฤษอ้างโดนทำร้ายร่างกายหวังเงินบริจาค

ภูเก็ต – นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษผู้ซึ่งอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนจี้และทำร้ายร่างกายจนขาหัก ได้เดินทางออกจากภูเก็ตไปยังดูไบแล้วพร้อมภรรยาเมื่อเช้าวานนี้ (7 พ.ย.) ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแสดงหลักฐานว่าเขากระโดดลงมาจากระเบียงโรงแรมในพื้นที่ป่าตอง

ธัญลักษณ์ สากูต

วันพุธ ที่ 8 พฤศจิกายน 2560, เวลา 10:49 น.

ภาพ ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต

ภาพ ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต

นายไมเคิล เจมส์ ลาเวอตี้ อายุ 50 ปี อดีตทหารผ่านศึก และภรรยา เดนิส ลาเวอตี้ จาก นิวตัน เดอแฮม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ได้ประกาศรับบริจาคเพื่อเป็นค่ารักษาในโรงพยาบาล หลังจากที่นายไมเคิล ได้รับบาดเจ็บกระดูกขาหัก

ซึ่งในข้อความที่นายไมเคิลผ่านเว็บไซต์ Crowdfunder นั้นคือเขาได้รับบาดเจ็บ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาทั้งคู่เดินทางมาถึงเกาะภูเก็ต เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 50 ปีของเขา (อ่าน The Phuket News เพิ่มเติม คลิก)

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากได้มีข่าวการถูกทำร้ายเผยแพร่ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตได้ทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว กระทั่งทราบว่านายไมเคิลกุเรื่องถูกทำร้ายร่างกายขึ้นมาทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่านายไมเคิลกระโดดลงมาจากระเบียงของโรงแรมที่ความสูงประมาณ 6-7 เมตร ในเวลาประมาณ 00.10 น. เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา (ชมคลิปจากกล้องวงจรปิดจาก Phuket Xtra เพิ่มเติม คลิก)

“พนักงานได้ยินเขาร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งไปช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าตอง ก่อนที่จะส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพในวันที่ 4 พ.ย.” ว่าที่ พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 กล่าว

ว่าที่ พ.ต.ต.เอกชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนั้น ในเช้าวันเดียวกันนางเดนิสก็ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ของตำรวจท่องเที่ยวว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา สามีของเธอถูกทำร้ายร่างกาย โดนตีที่ด้านหลังของศีรษะ และถูกชิงทรัพย์เป็นนาฬิกาข้อมือ (ไม่ระบุยี่ห้อ) เหตุเกิดบริเวณ ถ.บางลา เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ และมีความประสงค์จะลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินการในเรื่องประกันภัย รวมทั้งได้มีการเผยแพร่เหตุการณ์ดังกล่าวในเว็บไซต์ Phuket News เย็นวันที่ 6 พ.ย. โดยอ้างอิงข่าวจากประเทศอังกฤษ (The Northern Echo) ว่านายไมเคิลถูกปืนจี้ชิงทรัพย์

หลังได้รับแจ้งเหตุ ว่าที่ พ.ต.ต.เอกชัย ได้สั่งการให้นายร้อยตำรวจเวร และ สายตรวจ เข้าเยี่ยมพบผู้บาดเจ็บ ที่ รพ.กรุงเทพ เพื่อสอบถามข้อมูลนำมาตรวจสอบเบื้องต้นและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว

สรุปได้ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมอาการนายไมเคิล และได้เล่าว่า คนร้ายไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ได้เดินเข้ามาหาตน และสอบถามนักท่องเที่ยวว่าพักที่ไหน มาจากประเทศอะไร ก่อนที่จะขอเงินจากนายไมเคิล แต่นายไมเคิลปฏิเสธคนร้ายจึงได้ทำร้ายร่างกายและเอานาฬิกาข้อมือสีดำ ยี่ห้อ Oris Quartz Watch ไป จำนวน 1 เรือน แต่นายไมเคิลไม่สามารถระบุรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลา สถานที่เกิดเหตุได้แน่ชัด

สอบถามนพ.ชัยยุทธ สุธีระยงประเสริฐ แพทย์ประจำตัวผู้ป่วย แจ้งว่า นักท่องเที่ยวกำลังเข้าห้องผ่าตัดสะโพกด้านซ้าย เนื่องจากหัวสะโพกหลุดและเข่าด้านซ้ายหัก ได้เข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. หลังจากออกจากห้องผ่าตัดแพทย์ได้แจ้งว่านักท่องเที่ยวอาการไม่สาหัส ได้ให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนและให้เริ่มทำกายภาพบำบัด หัดเดินในวันที่ 6 พ.ย. ใช้เวลารักษาที่โรงพยาบาล 2-3 วัน แล้วจึงสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

นักท่องเที่ยวทั้ง 2 มีกำหนดกลับประเทศในวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำพร้อมยินดีจะพานักท่องเที่ยวไปแจ้งความที่ สภ.ป่าตองแต่ปรากฏว่า ทั้งคู่บ่ายเบี่ยงโดยแจ้งว่ายังรู้สึกอ่อนล้าต้องการพักผ่อน

ทางด้านเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินเท้าถนนบางลา ตรวจสอบสถานที่ตามคำบอกเล่าของผู้บาดเจ็บ ห้องน้ำร้านไทเกอร์ ซอยฟรีดอม (จุดที่พอสันนิษฐานได้จากการให้การเบื้องต้นของนักท่องเที่ยว) ซึ่งมีกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ประจำร้านและผู้คนที่ทำงานอยู่บริเวณดังกล่าว แจ้งว่าไม่มีเหตุทำร้ายร่างกาย แต่อย่างใด

จากนั้นชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลและตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบถามพนักงานโรงแรม Swissotel Resort Patong Beach ทราบว่า นายไมเคิลและนางเดนิส เดินออกจากโรงแรมช่วงหัวค่ำ ของวันที่ 3 พ.ย. เพื่อเที่ยวงานลอยกระทง และเดินทางกลับเข้ามาที่โรงแรมอีกครั้ง เวลาประมาณ 23.00 น. ก่อนที่นายไมเคิลจะเดินออกจากโรงแรมเพียงคนเดียวในเวลาประมาณ 23.30 น.

ในเวลา 1.00 น. นางเดนิสโทรมาที่แผนกต้อนรับว่าสามีของตนหายตัวไปจากห้องพัก จากนั้นประมาณ 4.00 เจ้าหน้าที่รพ.ป่าตองโทรแจ้งมาที่โรงแรมว่านายไมเคิลประสบอุบัติเหตุและรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ป่าตอง

หลังจากนั้นชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่ รพ.ป่าตอง เพื่อสอบถามข้อมูลผู้นำส่งนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวว่า รถของมูลนิธินำตัวนายไมเคิลมาส่งที่โรงพยาบาล สอบถามไปยังมูลนิธิแจ้งว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทร 1669 ว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวตกจากที่สูงที่ รร.ธารา

ชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่ รร.ธารา และขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่า วันที่ 4พ.ย. เวลา 00.08 น. นายไมเคิล ได้เดินถอดรองเท้าเข้ามาทางเข้าด้านหน้าโรงแรมและเดินขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของโรงแรมในเวลา00.10 น. และได้ปีนระเบียงชั้น 2 แล้วกระโดด ลงมาความสูงประมาณ 8 เมตร

เวลาประมาณ 01.00 น. พนักงานของโรงแรมได้ไปพบนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวนอนบาดเจ็บอยู่บริเวณพื้นในสภาพมีเลือดออกที่ศีรษะ พบนาฬิกา และรองเท้าวางอยู่ข้างตัว จึงได้ตามพนักงานรักษาความปลอดภัยและนำรถเข็นมาเพื่อเคลื่อนย้ายมาที่หน้าโรงแรมเพื่อเรียกรถไปส่งนักท่องเที่ยวที่โรงพยาบาลแต่รถรับจ้างปฏิเสธจึงได้โทรไปยังศูนย์นเรนทรเพื่อขอรถมารับนักท่องเที่ยวไปส่งโรงพยาบาล จนถึงเวลาประมาณ 03.15 น. จึงมีรถของมูลนิธิมารับนำส่ง รพ.ป่าตอง

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เดินทางไปที่ รร.Swissotel เพื่อพานักท่องเที่ยวไปแจ้งความ นักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ว่า จะเดินทางไปแจ้งเองในวันรุ่งขึ้น (7 พ.ย.)

วันที่ 7 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางเข้าไปพบนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้ง 2 ที่ รร.Swissotel อีกครั้ง และได้รับทราบจากพนักงานโรงแรม นักท่องเที่ยวได้เช็คเอาท์ไปแล้วเมื่อเวลา 04.40 น. ไปกับรถแท็กซี่ จากนั้นในเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน ว่าที่ พ.ต.ต.เอกชัย ได้เชิญ นายมาร์ติน คาร์เพนเตอร์ กงสุลอังกฤษกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต มาหารือเพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากกรณีดังกล่าวข้างต้น โดยนายมาร์ตินได้รับทราบและพร้อมจะนำข้อมูลที่ถูกต้องรายงานให้กับสถานทูตอังกฤษทราบต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่