ทั้งในสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง 94 แห่ง ได้เตรียมสถานที่ในการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ และได้กำหนดเวลาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตเวลาใกล้เคียงกับประเทศไทย จะจัดในเวลาเดียวกัน คือ เวลา 17.30 น.
ส่วนประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตเวลาห่างกับประเทศไทย จะจัดพิธีในเวลาที่เหมาะสม แต่จะไม่จัดก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในประเทศไทย ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จากประเทศไทย เพื่อให้คนไทยและชาวต่างชาติที่เข้าร่วมพิธีได้ชมบรรยากาศได้อย่างทั่วถึง เสมือนอยู่ในบรรยากาศของพระราชพิธีฯ จริง
น.ส.บุษฎี กล่าวอีกว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรับไฟหลวงพระราชทานแล้ว นายกรัฐมนตรีจะได้อัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน มา ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประกอบพิธีรับไฟหลวงพระราชทาน
โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ ผู้ว่า ฯ กทม.และผู้บริหารของ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด จะรับไฟหลวงพระราชทานจากโคมไฟหลวงพระราชทาน และปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวแทนรับหีบเพลิงพระราชทาน เพื่ออัญเชิญหีบเพลิงพระราชทานไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ทั้ง 94 แห่งทั่วประเทศ เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยจะเป็นประธานในพิธีวางหีบเพลิงพระราชทานในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในต่างประเทศ โดยดอกไม้จันทน์ที่ประชาชนได้ถวายจะถูกนำส่งกลับมายังกระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อส่งมอบให้สำนักพระราชวังดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ต่อไป
น.ส.บุษฎี กล่าวด้วยว่า สำหรับบุคคลสำคัญจากนานาประเทศที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องต้นได้รับรายงาน ณ วันที่ 18 ต.ค. ว่า มี 32 ประเทศ จะเดินทางมาเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ