ทั้งนี้ ทางจังหวัดอาจจะมีการพิจารณาเพิ่มจุดจอดตามที่ผู้ประกอบการเรียกร้อง อย่างไรก็ตามจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่ออกมา นโยบายจุดจอดใหม่ก็ยังคงต้องมีการบังคับใช้ โดยเจ้าหน้าที่จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการตามที่ได้แจ้งกับผู้ประกอบการไปว่าจะเริ่มจากการตักเตือนจนถึงโทษสูงสุดคือยึดใบอนุญาตขับรถสาธารณะ
พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 25 กล่าวกับ ข่าวภูเก็ต ว่า “วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มใช้คำสั่งเรื่องการจัดระเบียบที่จอดรถสาธารณะ ซึ่งจากที่ลงพื้นที่สำรวจหลายๆ จุดก็ให้ความร่วมมือดี เช่น จุดหน้าจังซีลอนที่ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจอดตามจุดที่จัดเอาไว้ให้ ซึ่งไม่เกะกะกีดขวางจราจร และไม่น่ามีปัญหาอะไร”
“ในส่วนของผู้มี่ไม่ปฏิบัติตามเราก็จะเข้าไปแจ้งตักเตือนชี้แจงให้ฟัง เนื่องจากผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม คือผู้ที่ไม่ยอมเข้าไปรับฟังข้อมูลต่างๆ ที่เราได้ชี้แจงไปตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. – 2 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากคิดว่าทำไม่ได้และเกรงว่าจะเสียผลประโยชน์ หรืออาจจะติดรับลูกค้าเราก็ให้โอกาส แต่เราก็ให้โอกาส เราก็บอกไปแล้วว่าไม่ใช่หรอก อยากให้มาดูและลองทำดู อย่างที่เห็นในวันนี้ พูดได้เลยว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่า 80 % ให้ความร่วมมือ แต่เชื่อว่าอีก 20 จะเข้าระบบในไม่ช้า”
“ผมเอาคนส่วนใหญ่เป็นตัวตั้ง ในช่วง 2-3 วันแรก จะเป็นการตักเตือนและแจ้งเตือนว่า การทำแบแบนี้ไม่ได้เสียรายได้เลย เพียงแค่เป็นจัดการให้เป็นระบบ ถ้าแจ้งเตือนแล้วยังไม่ทำตามก็ต้องดำเนินคดี เช่นเขียนใบสั่ง ถ้าไม่ทำอีกก็ถึงขั้นพักหรือยึดใบขับขี่รถสาธารณะ ซึ่งก็จะเป็นมาตรการตามขั้นตอนต่อไป” พ.อ.ศานติ กล่าว
พ.อ.ศานติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา เพราะการจัดระบบที่จอดสาธารณะไม่สามารถทำได้ในเร็ววัน เนื่องจากมีรถเป็นพันคัน
“เรื่องนี้คงต้องใช้เวลา จะมาทำในวันสองวันคงลำบาก เพราะปัญหานี้มันหมักหมมมาเกือบ 20 ปี เราต้องค่อยๆ ดำเนินการ ทั้งนี้ผู้ประการทุกคนให้ความร่วมมือดีมาก และยินดีที่จะปฏิบัติตาม”
เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานจะอยู่ประจำจุดจอดเพื่อประเมินผลเป็นเวลา 15 วัน
“เราจะประจำอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่เช้าถึงเย็น โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารบก ทหารเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ป่าตอง เทศบาลเมืองป่าตอง รวมทั้งขนส่งจังหวัดและทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง โดยจะประเมินผล 15 วันซึ่งในทุกเย็นจะมาประชุมกัน หากมีปัญหาก็จะรีบแก้ไข อันไหนดีก็ทำต่อไป” พ.อ. ศานติ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ. ทัศนัย โอฬาริกเดช ผกก.สภ.ป่าตอง ยืนยันว่า การจัดระเบียบเพื่อคืนพื้นที่จอดรถสาธารณะนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
“การจัดระเบียบเป็นผลดีต่อนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะมาใช้พื้นที่บนถนนในการจอดรถ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการจะไปจอดรถกีดความที่จอดรถอยู่ประจำ และหากใครมาจอดก็ไม่สามารถจอดได้ ในวันนี้ก็เป็นวันแรก ของการใช้ระเบียบใหม่ ซึ่งเรามีการประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการ 84 คิว พูดคุยทำความตกลงที่โรงพัก ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือ มีบางคิวที่ยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากดำเนินการในวันนี้ เราก็จะมีการประเมิน ทุก 1 สัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์เรื่อยไป”
“ทั้ง 24 จุดจอดนั้นจะมีกำลังของทั้งฝ่าย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเทศบาลร่วมกันดูแลอยู่ทุกจุด จะให้คำแนะนำและเป็นคนกลางในการดำเนินการในแต่ละคิว เพราะในคิวเองก็ต่างคนต่างมา อาจจะตกลงกันไม่ได้ง่ายๆ จึงต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางให้การดำเนินการเป็นไปอย่างผสมกลมกลืน” พ.ต.อ. ทัศนัย กล่าว
นายวีระพงศ์ คงบุญ ตัวแทนผู้ประกอบการรถตุ๊กตุ๊กคิวหน้าจังซีลอน กล่าวว่า การจัดระเบียบอาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่คงไม่หนักหนามาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูกันต่อไป หากมีปัญหาก็จะได้ทำการเสนอทางคณะกรรมการจัดระเบียบ
“ถ้าดูตามโมเดลที่ทางจังหวัดวางเอาไว้ ที่ทำมาหากินตรงนี้มันก็มีผลกระทบแต่ไม่เยอะ เพราะตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงรายละเอียด มันอาจจะติดปัญหาอยู่บ้างแต่ก็ต้องทดลองใช้กันไปก่อน และมาดูกันว่าว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จากนั้นเราก็จะเสนอปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป” นายวีระพงศ์ กล่าว
“คิวของผมที่มีรถอยู่จำนวน 90 กว่าคัน ถ้าเอาคิวข้างๆ มารวมก็จะเป็นร้อยกว่าคัน พื้นที่จอดรถมันจะน้อย เพราะต้องแบ่งให้คิวอื่นมาใช้ด้วย ที่ผ่านมาเรามีระบบระเบียบการจัดการภายในที่ชัดเจนอยู่แล้ว หาดสมาชิกทำผิดกฎก็จะถูกพักงาน 5 วัน 7 วันก็ว่าไป แต่คิวอื่นผมไม่ทราบ”
นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า “อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่จอดนี้ ผมจะขอทางฝ่ายจัดระเบียบให้เพิ่มจุดจอด เพราะหากให้จอดแค่ 5 คันพวกเราทำงานยากมาก เพราะรถมันเยอะ วันๆหนึ่งเราวิ่งกันคนละ 4 เที่ยวก็ค่ำแล้ว เกรงจะไม่พอค่าใช้จ่าย บางคนก็เช่ารถมาและต้องจ่ายค่าเช่าอีก”
ด้านนายอนันต์ ปลื้มจิตต์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะพื้นที่ป่าตอง กล่าวถึงกรณีการบังคับใช้ระเบียบการคืนพื้นที่จอดรถสาธารณะกับ ข่าวภูเก็ต ว่า ทางผู้ประกอบการไม่ต้องการพูดคุยหรือหารืออีกแล้ว และอ้างว่าที่ผ่านมาเป็นการตัดสินใจของทางภาครัฐฝ่ายเดียว
“ผมไม่ต้องการคุยด้วย ไม่มีใครรับฟังพวกเรา คุณทำอยู่ฝ่ายเดียว ตั้งแต่วันแรกถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีการพิจารณาข้อเรียกร้องของเราเลย นัดประชุมสรุปผลกำหนดจุดจอดโดยไม่ปรึกษาว่าสอดคล้องกับการทำมาหากินของเราหรือไม่ ผมอยากให้ท่านลงมานั่งดูกับผม มานั่งในจุดของผม พวกผมจะเรียกแขกให้ดูว่าวันหนึ่งพวกผมได้เท่าไหร่”
ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการได้ยื่นหนังสือต่อศาลปกครองปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความเห็นใจเรื่องที่จอดรถ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
“รถก็ต้องต้องผ่อน ลูกที่บ้านยังเล็กๆ อ่อนๆ หาหมอบ้าง ไปโรงเรียนบ้าง ผมอยากให้ท่านมาสัมภาษณ์ผมบ้าง มาถามทุกข์สุข เราวิ่งรถหาเงินแบบชาวบ้าน แบบคนหาเช้ากินค่ำ แต่แบบนี้เราอยู่ไม่ได้ ค่ากินค่าอยู่มันไม่พอใช้ เพราะผู้ประกอบการก็ยึดเอาอาชีพนี้เป็นรายได้หลักของครอบครัว” นายอนันต์ กล่าว
ทั้งนี้ นายอนันต์เน้นย้ำว่าทางด้านผู้ประกอบการพร้อมจะปฏิบัติตนตามกฎหมายบ้านเมืองทุกอย่าง ทั้งยังยืนยันว่าพวกตนทำมาหากินสุจริต จึงอยากให้ทางจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเห็นใจ
