นายบุญธรรม เจริญพงษ์ ผจก.กฟจ.ภูเก็ต กล่าวกับ The Phuket News ว่า ขณะนี้งานก่อสร้างปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้า 115 kV พังงา 2 - ภูเก็ต 3 เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีกำหนดในการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในวันที่ 30 พ.ย. นี้
สำหรับสายดังกล่าวจะผ่านพื้นที่ในเขตอำเภอและตำบล ของจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต ดังต่อไปนี้
จังหวัดพังงา – อำเภอเมืองพังงา ได้แก่ ต.ป่ากอ ต.ตากแดด อำเภอตะกั่วทุ่ง ได้แก่ ต.กระโสม ต.กะไหล ต.ท่าอยู่ และ ต.หล่อยูง ส่วนจังหวัดภูเก็ตสายไฟแรงสูงจะผ่านในบริเวณ อ.ถลาง และ อ.เมืองภูเก็ต ได้แก่ ต.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร ต. ป่าคลอก และ ต.เกาะแก้ว โดยสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่กำหนดให้มีความกว้างของเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า จากแนวศูนย์กลางของเสาสายส่งออกไปทั้งสองด้าน ด้านละ 25 เมตร รวมเป็นความกว้าง 50 เมตร
ทั้งนี้ นายธีรวุฒิ เวทะธรรม ผอ.โครงการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า เพื่อรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน ทำการแทน ผู้ว่าการ กฟผ. ยืนยันในประกาศว่า การจ่ายไฟผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูงดังกล่าว จะไม่เกิดผลกระทบหรืออันตรายต่อผู้อาศัยใกล้แนวสายส่ง และยังสามารถทำงาน ทำไร่ ทำนา และใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใต้สายส่งไฟฟ้าได้ตามปกติ ยกเว้นการกระทำที่เป็นความเสี่ยงที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือการจ่ายไฟฟ้า เช่น การปีนขึ้นเสาไฟฟ้า การใช้สิ่งหนึ่งสิ่งใดแตะถูกสายไฟฟ้า การเล่นว่าว การนำวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรกล เข้าใกล้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง
และเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อการจ่ายไฟฟ้า ทาง กฟผ.สั่งห้ามปลูกบ้านพักอาศัย โรงเรือน และอ้อย ภายในบริเวณระบบโครงข่ายไฟฟ้า แต่สามารถปลูกไม้ล้มลุกและธัญชาติ และไม้เศรษฐกิจ ที่เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ความสูงไม่เกิน 3 ม.
ยกเว้นบริเวณที่ตั้งเสาไฟฟ้า พื้นที่รอบโคนเสาไฟฟ้าภายในระยะห่างจากแนวขาเสาสายไฟฟ้า 4 ม. และระยะกว้างด้านละ 25 ม. จากแนวศูนย์กลางของเสาสายส่งไฟฟ้าตลอดแนวเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า ห้ามปลูกไม้ยืนต้นทุกชนิด และต้นไม้ที่ถึงแม้จะอยู่นอกเขต 25 ม. หากล้มลงและยอดไม้ไปถูกสายหรือเสาไฟฟ้าแรงสูง ต้องตัดทอนให้สั้นลง เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของทางราชการและชีวิตของประชาชนเอง