กฟภ.-กสทช. คุมเข้มจัดระเบียบปัญหาสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ป่าตองได้รับคัดเลือกจาก 24 เส้นทางทั่วไทย

กระทรวงมหาดไทยสนับสนุนแผนการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า กฟภ.-กสทช.หารือผู้ประกอบการเร่งแก้ไข 24 เส้นทางวิกฤติทั่วประเทศภายในปี 60 จากทั้งหมด 219 เส้นทาง

เปรมกมล เกษรา

วันจันทร์ ที่ 20 มีนาคม 2560, เวลา 17:36 น.

วันนี้ (20 มีนาคม 60) เวลา 9.00 น. ที่ห้องประชุม 1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคป่าตอง ได้มีการประชุม-ชี้แจง “การจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้าของ กฟภ. ประจำปี 2560 ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)” ในเส้นทางวิกฤติ พื้นที่ กฟอ.พุนพิน และ กฟฟ. ป่าตอง โดยผู้ประกอบการต่างๆในภาครัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย เช่น TOT, CAT, 3BB, AIS, Dtac, True, UIH, Interlink และอื่นๆ

โดยนายสุภาพ กสิวงศ์ ผอ.การฝ่ายวิศกรรมและบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานการประชุม กล่าวว่า “ขณะนี้ปัญหาในเรื่องสายสื่อสารที่ยังไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าที่ควรนับว่าเป็นปัญหาระดับชาติ และนอกจากนี้ยังเป็นเรื่องกล่าวขานกันในระดับโลกถึงความยุ่งเหยิงของสายสื่อสารต่างๆในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปัญหามาแล้วหลายรูปแบบตั้งแต่ปี 2555 เช่นการรวบ-รัด-มัดสาย แต่ก็ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ วันนี้จึงอยากนัดหารือการแก้ไขปัญหาที่เข้มข้นขึ้นเพื่อความยั่งยืน”

นายวีรชัย หวังปัญญา หัวหน้าแผนจัดระเบียบสายสื่อสาร กฟภ.สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า “จากการสำรวจสายสื่อสารที่มีทั้งหมดในประเทศ พบว่ามีเส้นทางที่จัดเป็นเส้นทางวิกฤติที่ขึ้นบัญชีไว้กับ กสทช. อยู่ 219 เส้นทาง โดยวัดจากเส้นผ่าศูนย์กลางของจำนวนสายไฟเมื่อนับรวมกันทั้งหมดต่อเสาไฟฟ้า 1 ต้น ซึ่งเส้นทางที่มีความหนาแน่นที่สุดอยู่ในพื้นที่พัทยา ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางรวมกันทั้งหมดกว่า 1,000 มิลลิเมตร โดยระเบียบนั้นกำหนดไม่ให้เกิน 300 มิลลิเมตร และในแผนงานปี 2560 นี้จะคัดเลือกเส้นทางทั้งหมด 24 เส้นจาก 12 เขต ในการแก้ไขปัญหา โดย 1 ในนั้นมีเส้นทางในจังหวัดภูเก็ตด้วย คือเส้นทางจากแยกไสน้ำเย็น-นาในร่วมใจ รวมระยะทางทั้งสิ้น 1.2 กิโลเมตร ซึ่งมีระยะเวลากำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 และหลังจากนั้นจึงจะวางแผนแก้ไขเส้นทางอื่นๆต่อไป”

“ในการแก้ไขปัญหานี้ ผู้ประกอบการต่างๆจะต้องลดขนาดและจำนวนของสายสื่อสารลงให้เป็นไปตามมาตรฐานของกฟภ.โดยมาตรฐานนั้นจะแตกต่างกันไป ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเสาไฟฟ้า 1 เสาควรมีสายสื่อสารอยู่กี่เส้นเพราะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของเสาไฟฟ้าภายในพื้นที่ซึ่งมีหลากหลายประเภทต่างกัน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด ทางกฟภ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ”

ทั้งนี้ยังกล่าวถึงกรณีการตัดสายสื่อสารต่างๆเนื่องจากรกเสาไฟฟ้าของประเทศว่า “มาตรการการตัดสายสื่อสารทิ้งเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะทำถ้าหากว่าสายสายนั้นเป็นสายที่สร้างปัญหา ความจริงแล้ว สายสื่อสารสมัยใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นมานั้นมีเทคโนโลยีในการพิมพ์ชื่อสังกัดหน่วยงานเจ้าของสายนั้นๆอยู่แล้วมาเป็นของหน่วยงานใด ถ้าหากว่ามีสายสื่อสารใดที่ไม่มีชื่อหน่วยงานปรากฏและสายนั้นสร้างปัญหาอยู่ เช่นสายนั้นเป็นสายที่พาดผ่านถนนและสร้างการกีดขวาง หรืออยู่ในเส้นทางที่อยู่ในแผนงานการแก้ไขปัญหาและไม่มาปรากฏตัวแสดงความเป็นเจ้าของและดำเนินการแก้ไขปัญหา กฟภ.ก็จำเป็นต้องทำการตัดออกแต่จะให้เป็นมาตรการสุดท้าย ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเองได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสายสื่อสารที่พาดผ่านเสาไฟฟ้านี้ด้วย โดยมีมติในวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา”

“อย่างไรก็ตาม กฟภ.ยืนยันว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้จะดำเนินการให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด”

ทางด้านนายวัชรินทร์ ประภา ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ป่าตอง กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบครั้งนี้ว่า “กฟภ.ป่าตองได้คัดเลือกเส้นทาง ซอยไสน้ำเย็น-ซอยนาในร่วมใจ ให้เป็นเส้นทางในการจัดระเบียบเนื่องจากป่าตองเป็นพื้นที่ที่รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งมองจากจุดยุทธศาสตร์แล้ว ถนนทวีวงษ์ (ถนนเส้นหน้าหาดป่าตอง) เป็นจุดที่สำคัญที่สุดของพื้นที่ป่าตอง จึงดำเนินการจัดระเบียบด้วยการนำสายไฟทั้งหมดลงใต้ดิน (underground) จุดสำคัญรองลงมาคือเส้นทางซอยใสน้ำเย็น-ซอยนาในร่วมใจ จึงเลือกให้เป็นเส้นทางในการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบครั้งนี้”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่