วานนี้ (4 เม.ย.60) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา (อบต.กมลา) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำโดยนายการุณ ศรีเด่นนายก อบต.กมลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร, ตำรวจ สภ.กมลา, เจ้าหน้าที่อส.อำเภอกะทู้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน กว่า 50 คน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือหนัก เช่นรถแบ็คโฮ เป็นต้น
ลงพื้นที่ทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างในแปลงที่ดินซึ่งมีกรณีพิพาทระหว่าง อบต.กมลากับผู้อ้างสิทธิ์ บริเวณติดกับสวนสาธารณะอนุสรณ์สึนามิ หลังจากมีการปลูกสร้างในที่ดินแปลงดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต และทาง อบต.กมลา ได้มีการติดประกาศแจ้งให้เจ้าของสิ่งปลูกสร้างทำการรื้อถอนจนครบกำหนด แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอน ทางกลุ่มของผู้อ้างสิทธิก็ได้มายืนตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ และขอความเป็นธรรม เนื่องจากมองว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และปัญหาของที่ดินแปลงดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล
สำหรับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว สืบเนื่องจากองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้ติดประกาศ เรื่อง กำหนดรื้อถอนอาคารทั้งหมด ตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์ในเขตจังหวัดภูเก็ต ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เลขที่ 2/2560 ถึง 8/2560 โดยเนื้อหาในประกาศระบุว่า ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้มีคำสั่งเลขที่ ภก 71003/831, 832,833,834,835,836,837,838 ลงวันที่ 3 สิงหาคาม 2559 ให้รื้อถอนอาคารทั้งหมดซึ่งขัดต่อกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาล เขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดภูเก็ต ตามกฎหมายฉบับเดียวกันนั้น
ในกรณีดังกล่าวคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ได้มีมติยกอุทธรณ์ของผู้รับคำสั่งทั้ง 7 ราย ดังนี้ 1.ทิวา ขุนทอง 2.นายสรายุทธ โกยสกุล 3.นายศึก โกยสกุล 4.นายนิคม พลอยขาว 5.นางแอ๋ว กันตังกุล 6.สมหวัง โกยสกุล 7.นายสุคนธิ์ชินพันธ์ โดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่พิพาทดังกล่าว ดำเนินการรื้อถอนทั้งหมด ตามคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับประกาศนี้
หากยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ เมื่อพ้นกำหนดองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา จะทำการรื้อถอนอาคารทั้งหมดเอง และให้ผู้รับคำสั่งทั้งหมดร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และอาจมีความผิดฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ประกาศ ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งประกาศได้ครบตามกฎหมายแล้ว แต่ทางผู้รับคำสั่งยังไม่ดำเนินการใดๆ ทางอบต.กมลาจึงได้เข้ารื้อถอนดังกล่าว
นายการุณ กล่าวอีกว่า การมารื้อถอนในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ของ พ.ร.บ.ควบคุม เนื่องจากอาคารในที่ดินดังกล่าวนั้นก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และครบกำหนดเวลาในการรื้อถอนมาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ยังผ่านขั้นตอนต่างๆ ทางกฎหมาย ทั้งกรณีที่ผู้อ้างสิทธิไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรม เพื่อขอทุเลาและผ่อนผันคุ้มครองในเรื่องของอาคาร และพ.ร.บ.อาคาร แต่ทางศาลปกครองฯไม่รับคำทุเลาและยกคำร้อง จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ อบต.กมลา มาติดประกาศ เพื่อแจ้งให้ผู้อ้างสิทธิ์ทราบ ก่อนที่จะทำการรื้อถอน
ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนและกรอบของกฎหมาย โดยพื้นที่ที่มีการรื้อถอนทั้งหมดมีประมาณ 5 ไร่ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งติดสวนสาธารณะและฝั่งชายหาด รวมทั้งหมดประมาณ 15 ร้าน โดยพื้นที่ที่มีการพิพาทกันอยู่นั้นจะอยู่ในฝั่งที่ติดสวนสาธารณะประมาณ 2 ไร่ ซึ่ง อบต.กมลากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินเรื่องการขอออกหนังสือ นสล. โดยผ่านกระบวนการศาล จังหวัด และอำเภอเรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในเดือน พ.ค.60 นี้ จะสามารถออก นสล. ได้ หลังจากนั้นทางอบต.กมลาจะทำเรื่องขอใช้พื้นที่ นสล.จากอำเภอกะทู้ ในส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจะดูตามความเหมาะสมต่อไป
ขณะที่นายวัชรา โกยสกุล ผู้รับมอบอำนาจ จากเครือญาติตระกูลโกยสกุล ให้ดำเนินการในเรื่องของการขอความเป็นธรรม กล่าวว่า การรื้อถอนในครั้งนี้ตนและญาติๆ ไม่มีการขัดขวางแต่อย่างใด เนื่องจากยอมรับคำพิพากษาตัดสินใจของศาล ในเรื่องการ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แต่อยากขอความเป็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องทางจากอบต.กมลา ไม่รับฟังชาวบ้านและไม่มีการนำเอกสารใดๆ มาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงที่ดินดังกล่าว
และขอยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวได้มีถือครองมายาวนาน และมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง โดยในเรื่องของการพิพาทสิทธิในที่ดินนั้นยังอยู่ในกระบวนการของศาล หลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องของความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง รวมทั้งอยากถามว่า ทำไมสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้เคียงกันจึงไม่มีการรื้อถอน
