กอ.รมน.ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาข้อร้องเรียน เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ กะรน

ภูเก็ต – วันนี้ (14 มี.ค. 62) พล.ท.กิตติศักดิ์ บุญสุข รอง ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 (ศปป.4 กอ.รมน.) นำคณะตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาการชุมชนเรียกร้องของราษฎรและผู้ประกอบการ หาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับทราบไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป 

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันพฤหัสบดี ที่ 14 มีนาคม 2562, เวลา 20:44 น.

พร้อมด้วย พ.อ.นภัค สุวรรณคีรี ผอ.สสท.ศปป.4 กอ.รมน.และคณะเข้าร่วมประชุมที่ ศูนย์ ปภ.เขต 18 ภูเก็ตในช่วงเช้า โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องชี้แจงในข้อเท็จจริง ประกอบด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต, เจ้าหนักงานป่าไม้จังหวัดภูเก็ต, พัฒนาที่ดินจังหวัดภูเก็ต, เทศบาลตำบลกะรน, ตำรวจ, พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ก่อนจะออกเดินทางไปยัง เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ในพื้นที่กะรนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จในข้อร้องเรียน โดยมีทนายและวิศวกรของโครงการได้อธิบายในข้อสงสัยและประเด็นคำถามของทางคณะกอ.รมน.

พล.ท.กิตติศักดิ์ กล่าวภายหลัง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบว่า “เรามาที่นี่เพราะได้รับการร้องเรียนว่า โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ มีการก่อสร้างที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทาง กอ.รมน. ศปป.4 ก็ได้รับคำสั่งจากท่านนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง”

“จากการตรวจสอบ ทางเราได้ดูตามข้อกฎหมายก็พบว่ามันยังหมิ่นเหม่อยู่ ทั้งฝ่ายร้องเรียนและฝ่ายผู้ถูกร้องเรียน เนื่องจากเรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการของศาลปกครอง ซึ่งต้องรอสักระยะในการทำความจริงให้ปรากฎ แต่ทางเราก็ได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากการลงพื้นที่มากกว่าก่อนหน้านี้ที่ได้รับเพียงรายงานอย่างเดียว” พล.ท.กิตติศักดิ์

รอง ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวอีกว่า ในระหว่างนี้โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ยังคงดำเนินการต่อไปได้ ตามข้อกฎหมาย ณ ปัจจุบัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งว่ายังมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม จนทำให้ต้องสั่งระงับโครงการหรือไม่ ส่วนในเรื่องผลกระทบกับทางผู้ซื้อนั้น พล.ท.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า นายอำเภอเมืองภูเก็ตรับปากแล้วว่า จะดำเนินการหารือกับโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ว่าจะมีการเยียวยาลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างไร ในกรณีที่ศาลปกครองตัดสินให้ยกเลิกใบอนุญาตก่อสร้าง

“ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ก่อนออกใบอนุญาตก่อสร้าง ทางเทศบาลตำบนกะรนได้ทำข้อตกลงกับเจ้าของโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ว่าจะต้องมีการปรับ หรือจะต้องแก้ไขให้สิ่งแวดล้อมกลับเป็นแบบเดิม ซึ่งก็ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ในข้อตกลงทางเจ้าของโครงการตกลงไว้ว่ายินดีจะทำให้สิ่งแวดล้อมกลับสู่สภาพเดิม อย่างไรก็ตาม เราต้องรอผลการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดก่อน” พล.ท.กิตติศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายวันฉัตร ชุณหถนอม อัยการจังหวัด ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เน้นย้ำว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจง ทั้งในส่วนของประชาชนผู้ร้องเรียน และเจ้าของโครงการ เนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา แต่ในขณะเดียวกันภาครัฐต้องทำหน้าที่ดูแลผู้บริโภค

“ที่ประชุมในวันนี้สรุปไว้ 3 เรื่อง คือ 1. ใช้กลไกของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในการเชิญทางโครงการและทางประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ หรือผู้จะซื้อจะขายในครงการนั้น ให้ได้มาทราบข้อเท็จจริง”

“ประการที่ 2 หน่วยงานภาครัฐโดยทาง กอ.รมน. และทางจังหวัด โดยเฉพาะทางที่ดิน ต้องเข้าไปตรวจสอบและเตรียมความพร้อมในกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนว่า นส.3 ออกมาโดยมิชอบ ทางที่ดินก็ต้องการดำเนินการตามคำพิพากษา” นายวันฉัตร อธิบาย

“ประเด็นที่ 3 ประเด็นที่ถกกันว่าเทศบาลสามารถออก อ.1 (ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร) ได้ไหม ใน พรบ.ควบคุมอาคารเขียนเอาไว้แล้วอย่างชัดเจน แต่ในส่วนของทางเทศบาลเดิมนั้นมีความเข้าใจค่อนข้างจะคลาดเคลื่อนในเรื่องของเอกสารสิทธิ์ ซึ่งก็ต้องตามดูกันในรายละเอียดต่อไป ประเด็นตอนนี้คือ การออก นส.3 นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่”

“นอกจากนี้ ในที่ประชุมกับ กอ.รมน. เห็นร่วมกันว่าต้องรบกวนทางท่านผู้ว่าฯ ในฐานะประธานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จังหวัดภูเก็ต ให้มาดูว่าทางโครงการได้เปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องสิทธิครอบครองให้ลูกค้าทราบหรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องคุยกันในรายละเอียดต่อไป” นายวันฉัตร กล่าว

ด้านนายสุทธิชัย บัญญัติศิลป์ สถาปนิกชำนาญการ เทศบาลตำบลกะรน ได้อธิบายถึงการพิจารณาออกใบอนุญาตโดยพิจารณาจากสำเนาหลักฐานการครอบครอง แบบขออนุญาตก่อสร้าง และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่อนุมัติมาแล้ว

“โครงการคอนโดและโรงแรมจะต้องทำรายงาน EIA ซึ่งในรายงานฉบับนี้จะต้องมีกรรมการครบทุกหน่วยงาน ทั้งที่ดินจังหวัด โยธา อัยการ ซึ่งถ้าไม่มีหน่วยงานที่กล่าวมานี้รับรองมาใน EIA เทศบาลตำบลกะรนจะไม่ทำเรื่องต่อ ทั้งนี้จากการตรวจสอบปรากฏว่าโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ มีเอกสารทั้งหมดครบถ้วน” นายสุทธิชัย กล่าว

โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ขออนุญาตช่วงปลายปี 2560 และได้รับใบอนุญาตตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2561

“ตอนที่โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ มาขออนุญาต ทางเรายังไม่ทราบเรื่องว่าที่ดินผืนดังกล่าวมีคดีความอยู่ในศาล เพราะว่าทางโครงการให้เพียงสำเนาเอกสารมา และเซ็นรับรองสำเนามาทั้งหมด ครบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เทศบาลตำบนกะรนจึงออกใบอนุญาตให้”

“จากนั้นมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯ โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ก็เลยถูกระงับไป แต่ทางเจ้าของโครงการก็ใช้สิทธิ์ว่าการพิจารณาคดีของศาลยังไม่ถึงที่สุด จึงยังสามารถดำเนินการกับที่ดินต่อไปได้ โดยทางโครงการชี้แจงว่าไม่เคยทราบเรื่องว่าที่ดินดังกล่าวมีคดีอยู่ในศาล”

นายสุทธิชัย อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ใบอนุญาตโครงการหมดอายุไปเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเทศบาลได้ต่อใบอนุญาตให้แล้ว

“ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เมื่อใบอนุญาตหมดอายุ แล้วเขายื่นต่ออายุแล้วสามารถดำเนินการต่อได้เลย ยกเว้นว่าไปตรวจแล้วพบว่ามีการก่อสร้างอาคารไม่ตรงตามใบอนุญาตจึงจะระงับได้ ซึ่งทางเทศบาลไปตรวจดูก็พบว่า โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ทำการก่อสร้างตามที่ยื่นขออนุญาตมา และเจ้าของโครงการก็ใช้สิทธิ์ว่าการพิจารณาคดีของศาลยังไม่ถึงที่สุด ตอนนี้โครงการก็เลยยังก่อสร้างต่อได้ตามปกติ”

นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานบริหารโรงแรมในเครือกะตะธานี และผู้ก่อตั้งมูลนิธิรักท้องถิ่น ซึ่งผู้คัดค้านโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีการขัดผลประโยชน์กับทางโครงการฯแต่อย่างใด เพียงแต่มองว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวคือต้องหวนแหนและช่วยกันรักษาธรรมชาติที่เป็นของส่วนรวม

“เรากังวลว่าโครงการจะทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย เพราะโครงการมีมากกว่า 400 กว่ายูนิต หากมีคนมาอยู่อาศัยอยู่เต็ม ก็จะต้องใช้น้ำและคาดว่าจะก่อให้เกิดน้ำเสียมากกว่า 600 คิว ต่อวัน ถามว่าน้ำเสียเหล่านี้จะไปที่ไหน โดยเฉพาะตอนหน้าแล้งที่ชายหาดกะตะจะสูง น้ำเสียก็จะท่วมอยู่ตรงนี้ทั้งหมด เราเชื่อว่าโครงการจะจัดการได้ แต่ก็เป็นห่วงว่าอาจจะจัดการไม่ดี จนน้ำเสียอาจลงมายังชายหาดหรือบ่อน้ำของชาวบ้านได้” นายสมบัติ กล่าว

นายสมบัติ กล่าวว่าทางกลุ่มได้เริ่มคัดค้านมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน ทันทีที่ทราบว่ามีการเคลื่อไหวของโครงการ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่าที่ควร กระทั่งตัดสินใจเดินทางไปยื่นหนังสือกับ กอ.รมน. ที่กรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา จนนำมาสู่การลงพื้นที่ของกอ.รมน. ในครั้งนี้

“ผมรู้สึกดีที่ทางทหารลงมาดูในพื้นที่ เพราะทหารไม่ได้มีส่วนได้เสียและเป็นคนกลาง กรณีมีคนมองว่า ผมออกมาคัดค้านเพราะเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ผมยืนยันว่าผมไม่มีเรื่องเสียผลประโยชน์อะไร ผมไม่เคยไปขอซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว และคนที่ทำโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ผมก็ไม่เคยรู้จัก ยืนยันว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์แน่นอน” นายสมบัติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายทวีชัย ลีซ้าย ทนายความโครงการเดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ยืนยันว่าทางโครงการยินดีที่จะเปิดเผยและให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ สำหรับจะระงับการก่อสร้างโครงการหรือไม่นั้น คงต้องมีการประชุมร่วมกับผู้บริหารเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

“วันนี้เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.และคณะได้เข้ามาตรวจสอบในส่วนของอาณาเขต การขาย และเอกสารสิทธิ์ ซึ่งในช่วงที่มีปัญหาเรื่องการร้องเรียน ทางเราอาจจะผ่อนปรนลงบ้าง แต่จะระงับหรือไม่ต้องมีการประชุมกับทางผู้บริหารว่าตอนนี้มันมีเรื่องร้องเรียนเราต้องแก้ปัญหากันยังไง ซึ่งต้องคุยกันอีกที” นายทวีชัย กล่าว

“ขอเรียนว่าในวันนี้เราไม่ทราบว่าทางคณะจะลงพื้นที่ จึงสามารถชี้แจงได้เฉพาะที่เราชี้แจงได้ แต่หากต้องการเอกสารใดเพิ่มเติม ไม่ว่าคำพิพากษาของศาลหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เราก็ยินดีที่จะชี้แจงทุกอย่าง เราอยากให้มันหมดปัญหาคาใจไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือนายทุน เราก็ยินดีที่จะตอบคำถาม ส่วนของรายละเอียดเอกสารต่าง ๆ ถ้าท่านต้องการเราก็ยินดี” ทนายความโครงการเดอะ พีค เรสซิเดนซ์ กล่าว

รายงานเพิ่มเติม : วรัญญา พรหมพิณพิลาส

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่