คมนาคมสั่งกรมเจ้าท่ารับมือพายุไต้ฝุ่นโนรู เข้าไทยวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค.

กระทรวงคมนาคม สั่งการให้กรมเจ้าท่า เตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่นโนรู ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 28 ก.ย. 65 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ที่จะมีกำลังแรงขึ้น จะส่งผลกระทบทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน 2565, เวลา 14:54 น.

แฟ้มภาพ: เจ้าท่าภูเก็ตประกาศเตือนชาวเรือระมัดระวังการเดินเรือ จากคลื่นลมแรงและฝนตกหนัก / ปชส.ภูเก็ต

แฟ้มภาพ: เจ้าท่าภูเก็ตประกาศเตือนชาวเรือระมัดระวังการเดินเรือ จากคลื่นลมแรงและฝนตกหนัก / ปชส.ภูเก็ต

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่นโนรู จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 28 ก.ย. 65 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น จะส่งผลกระทบทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในช่วง วันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. 65

คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 1 - 7 และ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษา ทางน้ำ 1 - 8 ทั่วประเทศ เตรียมการรับมือพายุไต้ฝุ่นโนรู ดังนี้
1. จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมเจ้าท่า
2. เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ รถ เรือ อุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประภัย
3. จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำศูนย์และให้กำชับเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
4. ออกประกาศให้ระมัดระวังการเดินเรือ ช่วงวันที่ 27 ก.ย. - 1 ต.ค. 65 โดย
- เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 12 เมตร ไม่ควรออกจากฝั่งหรืองดการเดินเรือ
- เรือที่มีความยาวมากกว่า 12 เมตร ให้ใช้ความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้
ให้ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ ตลอดจนเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในเรือ

และกำชับให้หน่วยงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่