เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย หรือ จีเอ็ม ก่อตั้งและเริ่มดำเนินการในประเทศไทยในปี 2543 การดำเนินงานของศูนย์ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์การผลิตยานยนต์ จีเอ็ม ประเทศไทย ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีของการให้บริการในประเทศไทยจีเอ็มได้มีการผลิตรถยนต์ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย อาทิ โคโลราโด (รถกระบะ) และเทรลเบลเซอร์ (รถอเนกประสงค์) ภายใต้แบรนด์เชฟโรเลต โดยมีศูนย์การผลิตในจังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค ที่ดำเนินการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์สำหรับจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์เชฟโรเลตและโฮลเด้น นอกจากนี้จีเอ็มยังได้เปิดเผยอีกหนึ่งความภูมิใจผ่านหน้าเว็บไซต์ ในฐานะบริษัทรถยนต์รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน ISO 50001 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ จีเอ็มในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตอีกด้วย
กระทั่งทางจีเอ็มประเทสไทยได้มีการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จะยุติการจัดจำหน่ายรถยนต์ เชฟโรเลตในตลาดประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563 แต่จะยังคงให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าเชฟโรเลต อาทิ การรับประกันคุณภาพรถยนต์ การซ่อมบำรุง และการบริการต่างๆ ผ่านเครือข่ายของศูนย์บริการ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลตทั่วประเทศ
นายแอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการตลาดเชิงกลยุทธ์ พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ กล่าวว่าการถอนเชฟโรเลตออกจากตลาดรถยนต์ประเทศไทยนั้นเป็นการตัดสินใจของจีเอ็ม หลังจากที่มีการขายศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยองให้แก่ เกรท วอล มอเตอร์ส
“จีเอ็มทราบดีถึงผลกระทบที่จะมีต่อพนักงานและคู่ค้าของเราจากการตัดสินใจครั้งนี้ เราให้คำมั่นที่จะปฏิบัติต่อพนักงาน คู่ค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราด้วยความเคารพตลอดระยะเวลา การปรับเปลี่ยนนี้” นายแอนดี้ กล่าว
“จีเอ็มได้ประเมินทางเลือกหลายทางในการรักษาเชฟโรเลตไว้ในตลาดประเทศไทย แต่ความเป็นจริงก็คือ หากไม่มีฐานการผลิตในประเทศไทยแล้ว เชฟโรเลตก็ไม่อาจที่จะแข่งขันในตลาดรถยนต์ประเทศไทยได้เลย” เขากล่าว
จีเอ็ม และเกรท วอล มอเตอร์ส ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทยในจังหวัดระยอง ทั้งสองบริษัทคาดว่าการซื้อขายและส่งมอบศูนย์การผลิตทั้งสองจะเสร็จสิ้นในปลายปี 2563
นายเฮกตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทให้คำมั่นสัญญาที่จะดูแลช่วยเหลือพนักงานและลูกค้า และจะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานต่าง ๆ สำหรับลูกค้า พนักงาน ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตและผู้จัดหาวัตถุดิบหรือบริการให้สำเร็จเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย
“เราจะให้ความช่วยเหลือและมอบแพ็คเกจเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดในจำนวนที่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด”
“ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตจะได้รับการเสนอโปรแกรมการช่วยเหลือพิเศษในการปรับเปลี่ยนธุรกิจอย่างเหมาะสมหลังจากที่ร่วมเป็นคู่ค้ากับเรามาอย่างยาวนาน รวมถึงโอกาสในการเปลี่ยนธุรกิจของตนให้เป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต” เขากล่าว
“เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลและให้บริการลูกค้าของเราต่อไป ท่านเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลตมั่นใจได้ว่าเราจะยังคงปฏิบัติตามการรับประกันคุณภาพรถยนต์ทุกคันและให้บริการหลังการขายผ่านเครือข่ายของเราในประเทศไทย เชฟโรเลตจะร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายของเราอย่างใกล้ชิด โดยเราจะเสนอโอกาสในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้แก่ผู้จัดจำหน่าย ให้เปลี่ยนเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต” นายเฮกตอร์ กล่าว
ลูกค้าเชฟโรเลตสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1734