ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดจับกุมซึ่งนำโดย พ.ต.ต.ฤทธิชัย ชุมช่วย สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมทีมชุดสืบสวน เข้าจับกุม นายพนม หรือนม แซ่ลิ้ม อายุ 34 ปี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โดยจับได้พร้อมของกลาง ยาไอซ์ ชนิดเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส แบบกดปิด-ดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 19.17 กรัม และยาบ้าอีกเป็นจำนวน 1,000 เม็ด โดยพบบรรจุอยู่ในถุงแบบเดียวกันจำนวน 5 ถุง ถุงละ 200 เม็ด พร้อมทั้งพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์อีก 1 ชุด, ถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-ดึงเปิดเพื่อใช้บรรจุ, หลอดพลาสติกปลายแหลมสำหรับตักแบ่งไอซ์ และเครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิติล 1 เครื่ือง โดยของกลางทั้งหมดนั้นพบวางอยู่บนโต๊ะภายในห้องพักของนายพนม ในพื้นที่ ต. ศรีสุนทร ในเวลาประมาณ 19.00 น.
ก่อนหน้าจะมีการจับกุมผู้ต้องหา เมื่อประมาณต้นเดือน ก.พ. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรม ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษทั้งประเภทไอซ์และยาบ้าให้กับผู้เสพยาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ ถลางและพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหารายนี้ที่อยู่ระหว่างหนีการจับกุมได้เช่าห้องที่เกิดเหตุ และเชื่อว่าในครอบครองของผู้ต้องหาน่าจะมียาเสพติด ที่เพิ่งรับมาเป็นจำนวนมาก
ชุดจับกุมจึงซุ่มสังเกตการณ์ภายในรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าหอพักผู้ต้องหาเพื่อรอตรวจสอบจับกุม จนกระทั่งนายพนมเดินลงมาซื้อของร้านค้าใกล้เคียง สายลับยืนยันยืนยันตัวบุคคล เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวและขอทำการตรวจค้น
แต่เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีไป และได้ชนเข้ากับกระถางต้นไม้หน้าหอพักจนเสียหลักล้มลง ชุดจับกุมจึงได้เข้าจับกุม แต่จากการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ชุดจับบกุมจึงให้ผู้ต้องหานำไปตรวจสอบค้นที่ห้องพัก เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมียาเสพติดและของผิดกฎหมายซ่อนอยู่ จนได้พบของกลางทั้งหมดในที่สุด
ผู้ต้องหายอมรับว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนจริง และได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายพนม ไปสอบสวนเพิ่มเติมขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติด โดยนายพนมกล่าวว่าตนซื้อยาเสพติดทั้งหมดมาจากนายตั้ม แล้ว 4 ครั้ง ก่อนถูกจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติดของนายพนมได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไหวตัวทัน เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหาได้อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดิม ได้จับกุมนาย สุชาติ หรือกล้วย รอบรู้ อายุ 33 ปี ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครอง และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 1 แท่ง น้ำหนักประมาณ 3.28 กรัม ภายในที่พักของผู้ต้องหา, กัญชาแห้งหั่น 0.39 กรัม และอาวุธปืนประดิษฐ์ 1 กระบอกชนิด 2 ลำกล้อง ใช้ยิงกับกระสุนขนาด.38 ไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียน พร้อมอุปกรณ์เสพกัญชา ได้ที่เพิงพักใน ต. ราไวย์
ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทกัญชาให้กับกลุ่มผู้เสพในบริเวณพื้นที่ ต.ราไวย์ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะใช้เพิงพักที่เกิดเหตุเป็นที่มั่วสุมยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าที่มาติดต่อขอซื้อ จนเวลาประมาณ 12.00 น. วัน ที่ 14 ก.พ. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายสุชาติครอบครองกัญชาอยู่จำนวนหนึ่ง และกำลังมั่วสุมอยู่ที่เพิงพักหลังดังกล่าว จึงได้เข้าไปตรวจสอบและแสดงตัวเข้าจับกุม ในเวลาประมาณ 13.00 น.
นายสุชาติได้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตัวเองจริง เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมนาย นาย อัคเซล วัล ลังค์เฮนโฮป (สัญชาตเบลเยี่ยม) อายุ 24 ปี เนื่องจากนายสุชาติแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเคยเข้าไปมั่วสุมยาเสพติดในบ้านพักแห่งหนึ่ง และได้พาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดดังกล่าว
จนเมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดิม ซึ่งนำโดย พ.ต.ต.ฤทธิชัย ได้พบผู้ต้องหานั่งอยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการตรวจค้นและจับกุม นาย อัคเซล ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครอง
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบของกลาง กัญชาแห้งหั่นผสมยาเส้น น้ำหนักประมาณ 0.35 กรัม (ตรวจพบวางอยู่บนเขียงไม้ใช้สำหรับหั่นกัญชาบริเวณที่ผู้ต้องหานั่งอยู่) และ กัญชาอัดแท่ง ห่อด้วยถุงพลาสติกใส ชั่งน้ำหนักรวมประมาณ 5.29 กรัม ในกระเป๋ากางเกงที่ผู้ต้องหาสวมใส่ และยังพบกัญชาอัดแท่งอีก จำนวน 2 แท่ง น้ำหนักประมาณ 2.05 กรัมในถุงพลาสติกภายในบ้านและอุปกรณ์การเสพกัญชา
นายอัคเซล ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
-เอกภพ ทองทับ-
