รวมถึงทำหมันเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากทายาทสัตว์จรจัด โดยมูลนิธิฯ ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสุนัขและแมวแล้วกว่า 600,000 ตัว ซึ่งสัตว์ทุกตัวยังได้รับการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่ออื่น ๆ
ดร.อาล่า อิซซีดอร์เช็ค ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์ให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิต 60,000 คนจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งหมายถึงมีคนเสียชีวิตจากโรคนี้ทุก ๆ 9 นาที อย่างไรก็ตามตัวเลขเหล่านี้สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซนต์ ด้วยการจัดการที่ต้นเหตุ โดยการฉีดวัคซีนให้แก่สุนัขทุกตัวในชุมชน และทำหมันควบคู่กันเพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในขณะที่โควิด-19 ยังเป็นภัยคุกคามสุขภาพนั้น มูลนิธิฯ ต้องการเน้นย้ำให้ทุกคนตระหนักถึงภัยของโรคพิษสุนัขบ้าและสุนัขจรจัดในชุมชนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศไทยเช่นกัน
น.สพ ตันติกร รุ่งพัฒนะ สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิฯ ให้ข้อมูลว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงบางส่วนตัดสินใจไม่ทำหมันและฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยง เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็น และสัตว์เลี้ยงอยู่แต่ในบ้านจึงไม่เสี่ยงต่อการติดโรค แต่ความจริงแล้วสัตว์ทุกตัวมีโอกาสรับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว เช่น การถูกหนูที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด การหลุดออกไปจากบริเวณบ้านและไปกัดกับสุนัขตัวอื่นที่มีเชื้อโรค เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด-19 ที่เราเห็นสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และสัตว์เลี้ยงเหล่านี้บางส่วนยังไม่ได้ทำหมันและฉีดวัคซีน จึงสามารถกลายเป็นพาหะนำโรคได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีโอกาสสูงมากที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าจากสุนัขหรือแมวของตน ด้วยความชะล่าใจว่าปลอดภัย หรือถูกกัดถูกข่วนแล้วไม่ทำแผลอย่างถูกต้อง ไม่หาหมอเพราะคิดว่าคงไม่เป็นอะไร
มูลนิธิฯ ออกหน่วยทำหมันเคลื่อนที่ทั้งสิ้น 9 หน่วยซึ่งขณะนี้ปฎิบัติงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมถึงพื้นที่ภาคใต้ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดตั้งหน่วยทำหมัน เช่น กรมปศุสัตว์ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีการดำเนินงานป้องกันและกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าเช่นกันภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างปีพ.ศ. 2564 – 2568 ด้วยเป้าหมายร่วมกันคือการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย
