สำนักข่าวต่างประเทศ เอเอฟพี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เปิดเผยว่า ซากศพของมิงค์จำนวนหลายพันตัว ที่ถูกนำมาฝังพร้อมกันในหลุมขนาดใหญ่นี้โผล่พ้นขึ้นมาสู่ผิวดิน เนื่องจากเกิดแรงดันจากแก๊สที่ถูกปล่อยออกมาจากซากศพที่เน่าเปื่อย ซึ่งซากศพเหล่านั้นถูกฝังไว้ใต้ดินบาง ๆ ในพื้นที่ดินทราย
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเกษตรของเดนมาร์กได้กล่าวว่า ได้มีการให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการฝังกลบซากมิงค์ว่า ซากมิงค์ควรถูกฝังกลบด้วยดินที่ความลึกอย่างน้อย 150 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต และทางผู้ดูแลระบุว่าแม้จะเป็นงานที่ท้าทายแต่ก็ได้ดำเนินการขุดหลุมลึก 2.5 เมตร เพื่อฝังซากมิงค์ตามคำแนะนำแล้ว พร้อมกับใช้ดินปิดปากหลุมแล้วเป็นอย่างดี แต่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ขุดหลุมฝังมิงค์ที่ความลึกแค่เพียง 100 เซนติเมตร
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ทางการเดนมาร์กได้สั่งกำจัดมิงค์ทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณกว่า 15 ล้านตัว เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ของเชื้อโรคโควิด-19 แม้จะมีเสียงต่อต้านจากประชาชนและฝ่ายค้าน โดยมีรายงานว่าจำนวนมิงค์ที่ถูกกำจัดทั้งหมดมีถึง 15 - 17 ล้านตัว
นอกจากนี้กระทรวงสิ่งแวดล้อมฯยังห่วงเรื่องหลุมฝังซากมิงค์ถูกขุดใกล้กับทะเลสาบบูทรูป์มากเกินไป ซึ่งทางการได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมเดนมาร์ก เพื่อให้มั่นใจว่าทะเลสาบแห่งนี้จะไม่ปนเปื้อนฟอสฟอรัสและไนโตรเจนจากซากมิงค์
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการกำหนดระยะห่าง 300 เมตร ระหว่างหลุมฝังซากมิงค์และทะเลสาบ แต่พบว่าบางส่วนของหลุมฝังกลบอยู่ใกล้กับบริเวณน้ำเพียง 200 เมตร
“เรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด และต้องลงมือทำทันที” ราส์มูส เปรห์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหาร การเกษตรและประมง กล่าวในแถลงการณ์
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหารือว่าจะติดตั้งท่อระบายน้ำหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าหากน้ำมีการปนเปื้อนจะถูกเก็บและของเหลวที่เป็นมลพิษจะถูกกำจัดออกไปจากทะเลสาบ
ลีฟ บรอก์การ์ สมาชิกสภาเมืองโฮลสเตโบร กล่าวว่ารัฐบาลกำลัง "เดิมพันกับธรรมชาติและใช้ธรรมชาติเป็นที่ทิ้งขยะ"
ทางการเดนมาร์กระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าจะมีการสร้างรั้วรอบหลุมศพ