สำนักข่าวเทเลกราฟ รายงานว่า รัฐบาลมีความพยายามในการลดความรู้สึกหดหู่ของการทำงานในเช้าวันจันทร์ ด้วยการอนุญาตให้พนักงานหยุดงานในช่วงเช้าวันจันทร์ได้ 1 ครั้งต่อเดือน ซึ่งหน่วยงานหลักการรณรงค์ Shining Monday ในครั้งนี้ก็คือ กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ด้วยเป้าหมายในการทำให้คนทำงานน้อยลง และสร้างสมดุลในการทำงานและการใช้ชีวิตของชาวแดนปลาดิบ
“ไชน์นิ่งมันเดย์” เป็นแผนการกระตุ้นให้บริษัทตัดชั่วโมงการทำงานให้น้อยลง เป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหา “Karoshi” หรือการทำงานหนักจนตายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อปีที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ได้ ปล่อยแคมเปญ “พรีเมียมไฟร์เดย์” ให้บริษัทต่าง ๆ บอกพนักงานให้ตอกบัตรออกจากออฟฟิศเร็วขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเพื่อให้ได้มีเวลากับครอบครัวและเพื่อน ๆ มากขึ้น รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการให้ผู้คนออกไปจับจ่ายใช้สอย และแม้กระทั่งเปิดโอกาสให้คู่รักมีลูกมากขึ้น เพื่อลดปัญหาพลเมืองของญี่ปุ่น
แต่อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวก็มิได้ประสบความสำเร็จตามเป้า เนื่องจากหลายบริษัทในประเทศญี่ปุ่นต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างสูงในการทำงานช่วงปลายเดือน กระทรวงเศรษฐกิจฯ เปิดเผยผลการศึกษาของปีนี้ว่าเกือบ 89 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานรับทราบเกี่ยวกับแผนรณรงค์นี้ แต่มีเพียง 11.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ใช้ประโยชน์จากแคมเปญวันสุขดังกล่าว
ทำให้รัฐบาลต้องเดินหน้าปล่อยแผนรณรงค์เช้าวันจันทร์แสนสดใสออกมา เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นยิ้มรับแสงอาทิตย์ของเช้าวันจันทร์ด้วยความสุขและไปทำงานในช่วงบ่ายได้ 1 ครั้งต่อเดือน ซึ่งดูเหมือนว่าแผนนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทและพนักงานที่ชื่นชอบบรรยากาศในการสังสรรค์ของค่ำคืนวันอาทิตย์ เพื่อที่จะได้หลับยาว ๆ ถึงเช้าและตื่นมาทำงานอย่างสดใสหลังจากมื้อเที่ยงของวันจันทร์
สำหรับแผนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้นำมาใช้เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยการบอกพนักงานราชการกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ให้หยุดงานในเช้าวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และจากผลลัพธ์ของการศึกษาดังกล่าว ทำให้ทางรัฐบาลขยายเป้าหมายออกไปยังบริษัทเอกชนและหวังว่าบรรดาบริษัทต่าง ๆ จะยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตามแผนในการลดชั่วโมงการทำงานเพื่อเพิ่มความสุขในชีวิตล่าสุดจากรัฐบาลในครั้งนี้
