เช้าวันนี้ (8 ก.พ. 61) นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองประธานสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางกลุ่มจราจร เพื่อแจ้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ท่าฉัตรไชย ว่า
“จากสาเหตุการขับรถย้อนศรที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและอันตรายแก่บุคคลอื่น สภ.ท่าฉัตรไชยจึงมีการจับกุมผู้ที่ขับขี่รถย้อนศร และ ที่ผ่านมาตำรวจก็พยายามตักเตือนแต่ก็ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นในการปฏิบัติงานมาจัดระเบียบกันใหม่ โดยใช้ช่องทางกฎหมายในการเพิ่มข้อหาผู้ฝ่าฝืน ตามมาตรา 43 (8) ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 บังคับใช้ควบคู่ คือให้แจ้งข้อหาฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท ผู้กระทำความผิดจะต้องเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดจะไม่มีการปรับกันที่โรงพักเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดพนักงานอัยการจะยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้ริบด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข็ดหลาบ”
ล่าสุด พ.ต.ท.สฤษดิ์ บุตรหนองแสง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ได้รายงานอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน อันมีสาเหตุมาจากฝ่ายหนึ่งขับขี่รถโดยประมาทด้วยการขับย้อนศร ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น. จนเป็นเหตุให้สูญเสียชีวิต โดยจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงบนถนนเทพกระษัตรี ขาเข้าเมือง บริเวณก่อนถึงจุดกลับรถนาส้มป่อย(หน้าสถานีไฟฟ้า) หมู่ที่ 1 ตำบลไม้ขาว
ซึ่งมีผู้ขับขี่ต้นเหตุเป็นชายอายุ 38 ปี ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกย้อนศร และชนเข้ากับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ เป็นหญิงอายุ 39 ปี ที่ขับขี่มาในเส้นทางปกติที่มีผู้โดยสารเป็นเด็กชายมาด้วยอย่างแรง จนตัวรถจักรยานยนต์ล้มกระเด็นลงข้างทาง ผู้ขับขี่รถทั้ง 2 ฝ่าย บาดเจ็บสาหัสและผู้ขับขี่รถฝ่ายชายเสียชีวิตที่ รพ.ถลาง ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ นายแพทย์วิวัฒน์ ได้แสดงความชื่นชมในความเข้มงวดด้านการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ท่าฉัตรไชย พร้อมระบุว่า กฎหมายและสังคมต้องช่วยปกป้องคนทำถูกต้องตามกฎหมาย
นายแพทย์วิวัฒน์ กล่าวว่า จากตัวเลขสถิติอุบัติเหตุทางถนนหน้าชุมชนม่าหนิกระยะทาง 2 กม. ใน ปี 2558 ตาย 6 เจ็บ 206, ปี 2559 ตาย 8 เจ็บ 163, ปี 2560 ตาย 4 เจ็บ 116, รวม ตาย 18 เจ็บ 485
“หน้าชุมชนม่าหนิกเป็นจุดอันตรายระดับต้นๆ ของภูเก็ต บีบให้เหลือ 2 เลนในย่านชุมชน มีโรงเรียน วัด เซเว่น อีเลฟเว่น และมีรถวิ่งตัดขวาง ถอยเข้าออก เป็นเหตุให้ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตถึง 18 ศพและบาดเจ็บปีละมากกว่าร้อยคน”
“ขณะนี้ทางผู้เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการออกแบบเพื่อปรับสภาพถนนให้มีการลดความเร็วของผู้ขับขี่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตที่มากขึ้น” นายแพทย์วิวัฒน์ กล่าว
