บรรยากาศวันแรกของการรับมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภูเก็ตคึกคัก

วานนี้ (21 ก.ย.60) เวลา 09.30 น. นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางลัดดา พุทธชาติ คลังจังหวัดภูเก็ต นายปิติ ธนวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มเครือข่ายภาคใต้ 1 บมจ.ธนาคารกรุงไทย ร่วมเปิดงาน “พิธีมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต โดยมีประชาชนที่ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 เดินทางมายืนยันสิทธิรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างต่อเนื่อง

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 22 กันยายน 2560, เวลา 11:10 น.

นายปิติ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านการคัดกรองตามเงื่อนไขจำนวน 31,788 ราย โดยในวันแรกของการรับมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งได้ลงทะเบียนไว้

โดยประชาชนจะสามารถรับบัตรสวัสดิการฯได้ ตามหน่วยที่ลงทะเบียนไว้ที่ธนาคารทั้ง 3 สถาบัน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนผู้ได้รับสิทธิ์ได้ทาง www.epayment.go.th และ www.fpo.go.th นอกจากนี้ธนาคารกรุงไทยยังได้ดำเนินการใช้ QR Code ในการชำระเงินตามนโยบายของรัฐบาลในการก้าวสู่ Thailand 4.0 ด้วยการทำธุรกรรมการเงินผ่าน QR Code บนแอปพลิเคชั่น KTB Netbank

ทั้งนี้การใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะต้องใช้จ่ายผ่านเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ซึ่งขณะนี้ได้ทำการติดตั้งเครื่อง EDC ธงฟ้า เฟสแรกให้กับร้านค้าในเครือซุปเปอร์ชีปทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 53 ร้าน

ซึ่งรูปแบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมี 2 รูปแบบ คือ แบบที่ 1 บัตร Hybrid 2 Chips เป็น Contact Chip และ Contactless Chip และแถบแม่เหล็ก โดย Contactless Chip จะเป็นไปตามมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) ผู้ที่ได้รับบัตรรูปแบบนี้ ได้แก่ผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม อยุธยา และแบบที่ 2 บัตร EMV เป็น Contact Chip และแถบแม่เหล็ก ผู้ที่ได้รับบัตรประเภทนี้ ได้แก่ผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนนอกเขตจังหวัดดังกล่าว

สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ได้แก่ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แบ่งเป็น วงเงินค่าโดยสารรถเมล์ หรือ รถไฟฟ้ารายละ 500 บาท ต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. รายละ 500 บาทต่อเดือน และวงเงินค่าโดยสารรถไฟ รายละ 500 บาทต่อเดือน / ส่วนที่ 2 คือ ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งเป็นวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าประชารัฐ รายละ 200-300 บาท ต่อเดือน โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 นี้เป็นต้นไป

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้สิทธิตามวงเงินในบัตรฯ ที่ผู้ถือบัตรฯ เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กำหนด เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการแล้ววงเงินในบัตรฯจะลดลงตามยอดที่ใช้จ่าย และเมื่อถึงวันที่ 1 ของทุกเดือน* วงเงินจะถูกปรับเป็นค่าเริ่มต้นของวงเงินแต่ละสวัสดิการเสมอ ซึ่งวงเงินคงเหลือของเดือนที่ผ่านมาจะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป และไม่สามารถถอนวงเงินสวัสดิการออกจาก บัตรฯ เป็นเงินสดได้

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่