ปลดล็อก “กัญชา ภูเก็ตรับยาคลินิกกัญชาแพทย์แผนปัจจุบันแผนไทยรพ.วชิระภูเก็ต

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ “กัญชา” พ้นยาเสพติด ประเภท 5 รวม กัญชง, พืชกระท่อม, พืชฝิ่น, เห็ดขี้ควาย แต่ใช้ได้เฉพาะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์เท่านั้น โดยให้ กัญชา (cannabis) พืชในสกุล Cannabis และวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันเสาร์ ที่ 19 ธันวาคม 2563, เวลา 10:54 น.

เช่น ยาง น้ำมัน ยกเว้นวัตถุหรือสารดังต่อไปนี้ เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ ไม่จัดเป็น ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ประกอบด้วย เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก, ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย, สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล เป็นส่วนประกอบและต้องมี สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก และ กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชาและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดมา นอกจากนี้ยังมียาเสพติดอีก 4 ชนิด ได้แก่ กัญชง, พืชกระท่อม, พืชฝิ่น, เห็ดขี้ควาย โดยให้มีผลวันที่ 15 ธ.ค. 63

สำหรับความพร้อมด้านการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ของจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยความพึงพอใจในผลการรักษา และได้รับการยกย่องว่าช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ไม่ประสบความสำเร็จในการรักษาดีขึ้น และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่หมดหนทางในการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันทั่วไป

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัจจุบันคลินิกกัญชาเปิดให้บริการแล้วที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและเป็นเพียงโรงพยาบาลแห่งเดียวบนเกาะภูเก็ตที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

“รพ.วชิระภูเก็ตเป็นโรงพยาบาลเพียงแห่งเดียวในจังหวัด ที่ได้รับอนุญาตให้มีการจ่ายกัญชาเป็นทางเลือกในการรักษาโรค เนื่องมาจากกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้มี 1 โรงพยาบาลต่อ 1 จังหวัดเท่านั้น” นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าว

พญ.บุษยา สันติศานติ์ จาก คลินิกกัญชาทางการแพทย์(แผนปัจจุบัน) เปิดเผยกับ The Phuket News ว่า ทางคลินิกได้เปิดรับและรักษาผู้ป่วยกว่า 39 ราย และมีผลทางรักษาไปในทางที่ดี ปัจจุบันคลินิกดูแลผู้ป่วยอยู่ประมาณ 20 ราย

“การรักษาด้วยกัญชาถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นตัวเลือกที่ดี ให้กับผู้ป่วยที่ไม่มีโรคที่ซับซ้อน นับตั้งแต่คลินิกเปิดรับผู้ป่วยตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 39 รายอยู่ภายใต้การดูแลของเรา และการรักษาด้วยกัญชานี้พบว่าสามารถช่วยให้อาการป่วยและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นมาก” พญ.บุษยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม พญ.บุษยา แสดงความกังวลเกี่ยวกับผู้ที่ใช้กัญชารักษาอาการเจ็บป่วยด้วยตนเอง

“สิ่งที่กังวลในขณะนี้คือกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้การรักษาด้วยกัญชาที่ผิดกฎหมาย เพราะผู้ป่วยจะไม่ทราบเลยว่ายาที่ใช้มีส่วนประกอบของอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้คนที่กำลังกระทำการดังกล่าว ให้เข้ามารับการรักษาอย่างถูกวิธีที่คลินิกของเรา เพื่อให้แพทย์ตรวจอาการและจัดสรรการรักษาที่เหมาะสมให้ในแต่ละราย” พญ.บุษยา กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษาด้วยกัญชาจะต้องมีลักษณะอาการของโรค ตรงตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข และต้องได้รับการประเมินและเห็นชอบจากแพทย์รพ.วชิระภูเก็ต นักจิตวิทยา และเภสัชกร ซึ่งผู้ป่วยจะไม่สามารถเข้ารับการรักษาเพียงเพราะแจ้งความประสงค์ โดยแพทย์จะติดตามอาการของผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อพิจารณาว่าการรักษาด้วยกัญชามีประสิทธิภาพกับตัวผู้ป่วยหรือไม่

การรักษาด้วยกัญชาที่คลินิกจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แผนปัจจุบันและแผนไทย สำหรับการรักษาด้วยภูมิปัญญาแบบไทย จะใช้น้ำมันกัญชาสะกัด 2 ประเภท คือ THC เท่านั้นและ THC: CBD ในอัตราส่วน 1: 1 น้ำมันสกัดทั้งสองรูปแบบใช้ในการรักษา อาการของไข้ได้หลากหลาย อาทิเช่น โรคลมบ้าหมู คลื่นไส้อาเจียน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด) อาการกล้ามเนื้อกระตุก อาการปวดเส้นประสาท ผู้ป่วยโรคเอดส์ และผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

น้ำมันสกัดแบบ THC หนึ่งขวดราคา 327 บาท ในขณะที่ THC: CBD ราคา 994 บาทต่อขวด ผู้ที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมกับรพ.วชิระภูเก็ตสามารถเข้ารับการรักษา ภายใต้การคุ้มครองรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลของรัฐ

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อาคารศรีพัชรินทรานุสร รพ.วชิระภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า ปัจจุบันกลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รพ.วชิระภูเก็ต มีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวน 22 คน โดยจะเปิดให้บริการในช่วงบ่ายของวันพุธ เวลา 13.00 – 16.30 น. และคลินิกกัญชาแพทย์แผนปัจจุบัน จะเปิดให้บริการในวันอังคาร เวลา 13.00 - 15.00 น.

ซึ่งยาสารสะกัดกัญชาแผนปัจจุบันมีอยู่ 3 สูตร ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม โดยจะมีสัดส่วนของสาร THC ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายและลดอาการปวด และ CBD ซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และการบวมอักเสบของแผล โดยสารสกัดจะใช้เป็นตัวยาในการรักษาโรคที่แตกต่างกัน อาทิ รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด, ภาวะปวดประสาท และโรคลมชักที่รักษายากหรือโรคลมชักที่ดื้อยา, ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง, ภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ที่ใช้วิธีการรักษาแบบอื่นไม่ได้ผล และภาวะเบื่ออาหารของผู้ป่วยโรคเอดส์ /HIV ที่มีน้ำหนักน้อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต

ในส่วนของแพทย์แผนไทยจะใช้ “ตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสม” ที่ได้รับการรับรองโดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประกอบด้วย 4 ตำรับ ได้แก่ ศุขไสยาศน์ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับและเจริญอาหาร, ยาทำลายพระเมรุ แก้ลมจุกเสียดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต, ตำรับยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง แก้โรคริดสีดวงทวารหนัก/แก้โรคผิวหนัง (โรคเรื้อน) และยาแก้ลมแก้เส้น ช่วยแก้อาการมือเท้าชา อ่อนแรง
รูปแบบที่ 3 คือ น้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในโครงการติดตามผลการใช้น้ำมันกัญชาเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีบริการที่รพ.วชิระภูเก็ต และรูปแบบที่ 4 คือยาปรุงเฉพาะรายของการแพทย์แผนไทย, การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการแพทย์พื้นบ้าน ที่ได้รับการับรองโดย กรมการแพทย์แผนไทยฯ

นอกจากนี้ยังผู้ป่วย 4 กลุ่มอาการที่ได้รับประโยชน์จากน้ำมันกัญชา คือ 1.โรคพาร์กินสัน 2.โรคอัลไซเมอร์ 3.โรคปลอกประสาทอักเสบ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) และ 4.โรคและภาวะอื่น ๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการ

รพ.วชิระภูเก็ต เปิดให้บริการ ศูนย์การแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ประกอบไปด้วย คลินิกแพทย์แผนไทย, คลินิกแพทย์แผนจีน, คลินิกกัญชาทางการแพทย์ สอบถามข้อมูลการให้บริการได้ที่ 076-361234 ต่อ 2550

รายงานเพิ่มเติม: ธัญลักษณ์ สากูต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่