จากการตรวจสอบพบว่าเรือประมง ที่ออกไปจับสัตว์น้ำ ผู้ประกอบกิจการประมงปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายหรือเข้าสู่ระบบร้อย ละ 90 ดังนั้น ศรชล.เขต 3 จึงมีเป้าหมายที่จะพยายามปลดล็อคใบเหลืองให้ได้ภายในเดือนเมษายน 2560 นี้ให้ได้ อย่างไรก็ดีในส่วนของ ระบบการติดตามเรือประมง หรือVMS -Vessel Monitoring System ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รายงานให้ทราบว่า ยังคงมีเรือประมงบางลำ ปิดระบบ สื่อสารนี้ เวลา เล่นเข้าสู่น่านน้ำ บางพื้นที่ ดังนั้นจึงจะ เพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขัน มากขึ้น
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่3กล่าวด้วยว่า ทางศรชล.เขต 3 รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับ ปัญหาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ของท่าเทียบเรือประมง หรือแพปลาและ ต้องการที่จะ วางมาตรฐาน ท่าเทียบเรือประมงหรือแพปลาโดยจะมีการเข้มงวดกวดขันตรวจสอบภายในเดือนมกราคม2560นี้
พลเรือโท สุรพล ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางด้านปัญหาการอพยพ ของกลุ่มโรฮิงยาเข้ามาในน่านน้ำไทย ในข้อมูลทางด้านการข่าวในปัจจุบันยังไม่มีแต่อย่างใด แต่มีความเป็นไปได้ ว่าอาจจะเข้ามาในน่านน้ำได้ในเรื่องนี้ จะมีการเช่นงวดกวดขันเพิ่มกำลังคน และเรือเพื่อตรวจสอบหรือลาดตระเวนในน่านน้ำไทยและคาบเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน
ในขณะที่ปัญหาการค้ามนุษย์นั้น ในพื้นที่รับผิดชอบในฝั่งทะเลอันดามันยังไม่ปรากฏว่ามีปัญหา แต่ก็จะมีการป้องกันปราบปรามอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้กรณีของกลุ่มโรฮิงยา ถ้าไม่มีกลุ่มนายหน้า หรือกลุ่มที่จัดหาเป็นคนกลางที่ต้องการแรงงานเข้ามาทำงานในบางกิจการ และให้ที่พักพิงบางส่วน ปัญหาของกลุ่มนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะต้องการเดินทางไปสู่ประเทศที่ 3 มากกว่าเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่ก็อาจจะมีเรือพลัดหลงเข้ามาในน่านน้ำไทยได้ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการเรือประมง ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ในภาพรวมส่งผลให้ต้องจอดเรือที่ท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงอยากจะขอแจ้งให้ชาวไทยผู้ที่ต้องการหางานทำ ใน เรือประมงที่มีค่าจ้างสูงถึงวันละ 400 ถึง 500 บาท มาติดต่อสอบถาม แพปลาต่างๆได้
ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ยังกล่าวถึง การจัดระเบียบบริเวณชายหาด แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงด้วยว่า ตามโรดแมพ มีการถ่ายโอนอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังนั้น ทั้งเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตําบล โดยทัพเรือภาคที่ 3 เป็นเพียงพี่เลี้ยง
แต่ในเบื้องต้นนี้ ให้องค์กรปกครองท้องถิ่นดูแลกันเองได้ และหน้าที่ประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหรือองค์กรปกครองท้องถิ่นต่างๆ จะมีการประชุมหารือกันและได้ข้อสรุป จึงจะแจ้งมาที่ทัพเรือภาคที่ 3 อีกต่อหนึ่ง
จากในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ที่ทำเตียงทรายในบริเวณพื้นที่ชายหาด ต่างๆ บางส่วนแล้ว หากเป็นการประกอบการของประชาชนในพื้นที่ทั่วไป ส่วนตัวคิดว่าเป็นการดำเนินการชั่วคราวไม่มีปัญหาแต่อย่างใด หากปล่อยให้เป็นลักษณะของการ เข้าไปเซ้งหรือมีนายทุนที่มีอิทธิพลเข้าไปรวบรวม สร้างระบบสัมปทานจะกลายเป็นปัญหาเดิมที่เคยเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปดูแลทุกปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวการจัดระเบียบชายหาด หากไม่สามารถหาทางออกหรือแก้ไขปัญหาได้ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนกำลังของทหารเรือ ให้แจ้งมาที่ทัพเรือภาคที่ 3 โดยตรงเพื่อจะได้สนับสนุนในการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมต่อไป
พลเรือโท สุรพล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากประสบการณ์แล้วชายหาดต่างๆ ของนานาประเทศ ไม่มีการตั้งเตียงร่มผ้าใบแต่อย่างใด ยกเว้นกรณีในประเทศไทยที่มีการใช้พื้นที่สาธารณะ ให้เป็นประโยชน์ส่วนตน