ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มเรื่องทำร้ายนทท. นายทะเบียนสั่งปรับบริษัทนำเที่ยว 5 แสนพักใบอนุญาต 6 เดือน

ภูเก็ต – ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตสั่งคุมเข้ม เรื่องการทำร้ายนักท่องเที่ยว ด้านนายทะเบียนสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต 2 สั่งปรับบริษัทนำเที่ยว 5 แสนบาท และพักใบอนุญาตเป็นเวลา 6 เดือน

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันอังคาร ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566, เวลา 11:48 น.

เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ห้องประชมชั้น 4 มุขหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอำนวย พิณสุวรรณ นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นางรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายนภดล อาวุธกรรมปรีชา นายทะเบียนสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต 2 ตำรวจ ตม.ภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เข้าร่วมประชุมหารือ กรณีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายโดยใช้มีดฟันที่แขนจนได้รับบาดเจ็บ

นายณรงค์ กล่าวว่า “พอทราบข่าวในวันนี้ ทุกฝ่ายมาประชุมพร้อมกันและช่วยกันแก้ไข เนื่องจากกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อบุคคลผู้กระทำผิด ซึ่งทางจังหวัดยึดหลักกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดูข้อกฎหมาย นำไปสู่ข้อสรุปการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้ละเลยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงนี้จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ปัญหาอาจเกิดขึ้นตลอด ฉะนั้นแต่ละเรื่องต้องดำเนินการทันทีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามคงเป็นตัวอย่างกับรายอื่น ๆ ต่อไปด้วย ซึ่งจังหวัดเองก็ได้เน้นย้ำมาตลอดในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการรับแขกบ้าน แขกเมืองเข้ามา ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของเราให้ดีขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น จังหวัดจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรจะมีการดำเนินการแก้ไขทันที”

นายนภดล กล่าวว่า “ในส่วนของสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต 2 จะรับผิดชอบในเรื่องของใบอนุญาตประกอบูรกิจท่องเที่ยวซึ่งผู้ประกอบการรายนี้มีใบอนุญาตถูกต้อง เป็นประเภทเฉพาะพื้นที่ขอในแบบบุคคลธรรมดา ซึ่งตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศเมื่อมาดูความผิดแล้ว จะมีความผิดในประเด็นความผิดตามระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวที่วางไว้ โดยเมื่อมีความผิดตามระเบียบนำเที่ยวในข้อ 9 (ค) ก็คือกระทำการอื่นใดที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย ซึ่งเมื่อมีการกระทำความผิดตามกฎระเบียบที่วางไว้ก็จะเป็นเหตุให้พักใช้ใบอนุญาต ซึ่งนายทะเบียนมีอำนาจในการสั่งพักใช้ใบอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ยังมีมาตรา 24 ซึ่งจะกำหนดไว้ว่าผู้ประกอบการนำเที่ยวต้องไม่กระทำการอันใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวซึ่งถ้าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 24 นี้จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งอันนี้จะนำมาใช้ในการลงโทษบริษัททัวร์”

ด้าน พล.ต.ต. เสริมพันธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า “จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจะมีการส่งฟ้องศาลในวันที่ 7 ก.พ. 66 ซึ่งในส่วนของการพกพาอาวุธ มีโทษเปรียบเทียบปรับเป็นลหุโทษ ส่วนการทำร้ายร่างกายมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท”

ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการ ให้ทุกส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ต มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่