ภูเก็ตจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ทำบุญตักบาตเรือนจำแห่งเดิม ก่อนพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว

ภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตร ณ เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม ถนนดำรง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนการพัฒนาพื้นที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ให้ เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ สำหรับให้บริการประชาชนและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองภูเก็ต

ประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันจันทร์ ที่ 25 เมษายน 2565, เวลา 09:16 น.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2565 เวลา 07.00 น. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยดร.อายุตฆ์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธาน นำนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต, รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต, หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตร ณ เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม

กิจกรรมประกอบด้วย ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย, ศาสนพิธีกรบูชาพระรัตนตรัย, อาราธนาศีล, ประธานสงฆ์ให้ศีล, ศาสนพิธีกรอาราธนาธรรม, พระสงฆ์สวดมาติกา, ประธานทอดผ้าบังสุกุล, พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล, ประธานกรวดน้ำ, พระสงฆ์อนุโมทนา, ศาสนพิธีกรอาราธนาพระปริตร, พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์, ประธานถวายเครื่องไทยธรรม, ประธานกรวดน้ำ, พระสงฆ์อนุโมทนา จากนั้น พระสงฆ์จำนวน 10 รูป รับบิณฑบาตอาหารแห้งจากผู้ร่วมกิจกรรม 

โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก ดร.อายุตฆ์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตโดยเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการพัฒนาพื้นที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ สำหรับให้บริการประชาชนและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองภูเก็ต จึงกำหนดประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคลในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ณ เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม

สำหรับเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เดิมชื่อ เรือนจำมณฑลภูเก็ตสร้างในสมัยพระยารัษฏานุประดิษฐ์ เป็นสมุทเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ในปีพุทธศักราช 2444 ตั้งอยู่ที่เลขที่ 11 ถนนดำรง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต แบ่งเป็นพื้นที่ภายในกำแพงจำนวน 6 ไร่ 1 งาน /พื้นที่นอกกำแพง 41 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวารวมพื้นที่ทั้งหมด 47 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา นับรวมระยะเวลาจนถึงปัจจุบัน (2564)ได้ 120 ปี ซึ่งนับว่าเป็นเรือนจำที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ไม่ได้ใช้ในภารกิจควบคุมผู้ต้องขังแล้ว แต่ก็ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาเล่าเรียนถึงภูมิปัญญาของช่างในสมัยอดีต ทั้งด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบกรอสร้างกำแพงเรือนจำ อาคารเรือนนอน และเครื่องมือ เครื่องใช้วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนเครื่องพันธนาการที่ใช้ในสมัยอดีต ซึ่งบุลคลโดยทั่วไปไม่สามารถเข้าไปเห็นหรือสัมผัสของจริงได้ หรือมีบางคนเรียกว่า "แดนสนธยา" 

การพัฒนาแดนสนธยาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แหล่งเรียนรู้ (Museum Live) ให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจงานราชทัณฑ์ในอดีต สามารถเข้าศึกษา หาความรู้ และสัมผัสสถานที่จริงๆที่เคยเป็นคุกขังนักโทษมาเป็นเวลา 120 ปีมาแล้ว จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากให้เรือนจำแห่งนี้ได้เป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ ทั้งในด้านประวัติความเป็นมาอาคารสถานที่ วัสดุ/อุปกรณ์ ที่ใช้ในงานราชทัณฑ์ในอดีตเพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของงานสถาปัตยกรรมในอดีต และพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับผู้สนใจในงานราชทัณฑ์ เพื่อใช้เป็นที่ฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขังก่อนปล่อย เช่นการฝึกวิชาชีพนวดแผนโบราณการฝึกวิชาชีพขายกาแฟ/เครื่องดื่ม การฝึกวิชาชีพด้านการเย็บปักถักร้อย/ปักเลื่อม  และการพัฒนาพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์สาธารณะให้เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดของชาวภูเก็ตต่อไป

และในวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 จังหวัดภูเก็ตกำหนดจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าต้นไม้ เพื่อนำมาปลูกในบริเวณนี้ให้สวยงามด้วย



 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่