ภูเก็ตยกทัพบุกยุโรปกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าวิกฤติโควิด-19

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เน้นย้ำความปลอดภัยของคนภูเก็ตสำคัญเป็นอันดับแรก ส่วนการโปรโมทการท่องเที่ยวนั้นถือเป็นเรื่องรอง ฝากถึงผู้มีอำนาจให้ช่วยลงมือแก้ไขสถานการณ์อย่างจริงจัง เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตเดินหน้าผ่าวิกฤติโควิด-19 พร้อมเผยยังรอโอกาสคุยกับผู้เกี่ยวข้องในประเด็นหากภูเก็ตไม่ทำธุรกิจท่องเที่ยวแล้วจะทำอะไรเพื่อเดินหน้าสู่อนาคตของจังหวัดภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 16 มีนาคม 2563, เวลา 11:08 น.

ภายหลังจากที่จังหวัดภูเก็ตยกทีมบุก เบลเยียม-เนเธอร์แลนด์ จัดโรดโชว์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ดึงกลุ่มยุโรปมาภูเก็ต และในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ทางสมาคมฯเชื่อว่าทุกประเทศคู่แข่ง จึงจำเป็นต้องตั้งเข็มไมล์ใหม่หาจุดดึงดูดการท่องเที่ยวเช่นกัน ในขณะที่งาน ITB เบอร์ลิน เจอพิษโควิด-19 ประกาศยกเลิกกะทันหันในรอบกว่า 50 ปี ก่อนงานเริ่มเพียงไม่กี่วัน

เมื่อวันที่ 26 ก.พ.– 4 มี.ค. ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตยกทีมจัดงาน Endless Discovery Roadshow to the Belgium-Netherlands 2020 ส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มยุโรป ณ เมืองบรัสเซลส์ และแอนท์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม และเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ททท.สำนักงานปารีส ผู้ประกอบการภูเก็ต เดินทางพบปะบริษัทด้านการท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและสร้างประสบการณ์ใหม่

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุผลในการทำโรดโชว์ คือการกระตุ้นตลาด ตอกย้ำภาพลักษณ์และได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการเลือกมาทำตลาดใน 2 ประเทศนี้ เพราะเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจยุโรป ทั้งกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวง และเมืองแอนท์เวิร์ปซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเบลเยียม

โดยได้ทำ 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรก คือ การอัพเดทสถานการณ์ อาทิ การจะพัฒนาเมือง สาธารณูปโภค สมาร์ทบัส สมาร์ทไวไฟ นโยบายการท่องเที่ยวโดยเฉพาะประเด็นโควิค-19 เรามีกระบวนการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไรได้บ้าง ประเด็นที่ 2 คือ อัพเดทโปรดักส์ เช่น แหล่งชอปปิงอะไรบ้าง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรใหม่ ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงในตลาดได้ และ ประเด็นที่ 3 ผู้ประกอบการมาเจรจาซื้อขายกัน โดยการมาครั้งนี้เหมือนมากระตุ้นการเดินทางให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวใน 2 ประเทศนี้ นิยมเที่ยวในช่วงที่ภูเก็ตกำลังจะเข้าสู่โลว์ซีซั่น ถือว่าเป็นการสร้างสมดุลให้กับการท่องเที่ยวได้ดี ส่วนสถานการณ์โควิค-19 ณ ขณะนี้กลายเป็นเรื่องของโลกไม่ใช่เรื่องของประเทศแล้ว ลูกค้าทั้งโลกเกิดสภาวะชะลอการเดินทาง เพราะฉะนั้นโจทย์ยากขึ้นเพราะมีการเปลี่ยนสถานการณ์และเปลี่ยนเกมตลอด

“อยากฝากไปถึงหน่วยงานรัฐบาลหากเจอวิกฤติต้องใช้สติปัญญาเยอะและเป็นปึกแผ่น ถ้ามัวประชุมแต่ไม่ลงมือทำก็ไม่รอด ทั้งนี้ทางสมาคมฯไม่ได้ต้องการโปรโมทการท่องเที่ยวจนละเลยความปลอดภัยของคนภูเก็ต เพราะยังให้ความสำคัญของเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก หลายอย่างที่ผลักดันเข้าไปเพื่อให้ภูเก็ตมีความปลอดภัยมากขึ้น” นายภูมิกิตติ์ กล่าว

“ส่วนคำถามที่ว่าหากภูเก็ตไม่ทำธุรกิจท่องเที่ยวแล้วจะทำอะไร เป็นคำถามที่น่าสนใจ เนื่องจากเราไม่เคยวางภูเก็ตให้เป็นอย่างอื่นนอกจากเมืองท่องเที่ยว ถ้านักท่องเที่ยวไม่มีแล้วจะเป็นเมืองอะไร เพราะฉะนั้นต้องอยู่ที่วิสัยทัศน์ของรัฐและเอกชนต้องช่วยกัน คือ ถ้าคำว่าท่องเที่ยวหายไปก็ไม่รู้เป็นเมืองอะไรเพราะไม่มีอะไรมาต่อ ถ้ามองวิกฤติในภาวะโควิค-19 เขามองว่ายังมีโอกาสได้มานั่งชวนคุยกันสักทีว่า ถ้าการท่องเที่ยวไม่ได้แล้วภูเก็ตจะเดินต่อด้วยอะไร” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริม

ทางด้าน นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เดินทางเข้าร่วมงานในครั้งนี้ กล่าวถึงการจัดงานว่า แม้จะมีการประกาศยกเลิกงาน ITB มหกรรมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ก่อนเริ่มงานเพียงไม่กี่วัน แต่ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้มีแผนการทำโรดโชว์ ก่อนงานนี้ ณ ประเทศเบลเยียม และเนเธอแลนด์อยู่แล้ว และเป็นที่น่ายินดีว่าบรรดาตัวแทนเอเยนต์ต่าง ๆ ได้ให้ความสนใจกันล้นหลาม ซึ่งตนคาดว่าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ จะมีการจองเพิ่มขึ้น ทางจังหวัดได้ให้ความมั่นใจในสถานการณ์โควิด-19 ว่าได้มีมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือ 100%

“ส่วนในช่วงที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าวปลอม หรือ Fake News บนโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างความเสียหายกับจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยเป็นอย่างมาก จึงอยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนตรวจสอบข่าวก่อนส่ง หรือแชร์ข่าวที่มาจากทางราชการเท่านั้น เพราะหากข้อมูลไม่เป็นความจริง จะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์”

ด้าน นายศักดิ์ชาย เชาวน์ไวย รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อบจ.มีเป้าหมายหลักด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งหาดทรายชายทะเลอันสวยงาม และประเพณีของชาวภูเก็ต อาทิ ประเพณีถือศีลกินผัก งานสดุดีวีรกรรมท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร งานประเพณีลอยกระทง งานเทศกาลอาหารฮาลาล ฯลฯ ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในแต่ละปีจะจัดสรรงบประมาณเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้พี่น้องประชาชนมีรายได้จากการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ คนในท้องถิ่นมีรายได้ดูแลครอบครัว นั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งหากหน่วยงานอื่นต้องการทำกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ยินดีรับเรื่อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณในสภาฯ ต่อไป

น.ส.วรภา อังคศิริสรรพ ผอ.ททท.สำนักงานปารีส ซึ่งดูแลการท่องเที่ยวในแถบฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม กล่าวว่า สมาคมฯ และผู้ประกอบการภูเก็ตมีความเข้มแข็ง และมีจุดแข็งที่จะช่วยกันกระตุ้นตลาดทั้งเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ น่าจะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์และกระตุ้นการเสนอขายประเทศไทยในตลาดกลุ่มนี้ได้ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ไม่ต่างจากอีกหลายประเทศ แต่อยากทุกคนมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ดูแลสุขภาพเพื่อให้มีพลังเตรียมพร้อมรับการทำงานในสเต็ปถัดไป

“เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อไหร่ แต่ททท. ก็พร้อมที่จะมุ่งหน้าลุยตลาด กอบกู้ภาพลักษณ์ให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่ประเทศคู่แข่งจะลงมาทำในตลาดเหมือนกัน แม้จะมีผลกระทบก็ต้องสู้ต่อไป ซึ่งกลุ่มที่น่าสนใจนอกจากกลุ่มครอบครัว กลุ่มฮันนีมูน หรือกลุ่มที่สนใจด้านสุขภาพซึ่งเป็นกลุ่มหลักแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวที่ออกแบบการเดินทางเอง แต่ต้องอาศัยบริษัทนำเที่ยวในการจองตั๋วต่าง ๆ หรือช่วยจัดการการเดินทางบางอย่าง หรือนักท่องเที่ยวสนใจวิถีชีวิตและประสบการณ์ที่ได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งคู่แข่งสำคัญคือ สหรัฐอเมริกา แต่จุดขายด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างต่างกับไทย ส่วนในเอเชียด้วยกันจะมีคู่แข่งคือ ญี่ปุ่นที่ค่อนข้างมาแรง รวมทั้ง อินโดนีเซีย และเวียดนาม แต่จากสถานการณ์ไวรัสตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยน ทุกประเทศเหมือนกันคือต้องเริ่มต้นใหม่” น.ส.วรภา กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่