ภูเก็ตร่วมแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 5

ภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม 2565, เวลา 15:19 น.

ช่วงเช้าของวันนี้ (23 ต.ค.65) ที่บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังเก่า อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต นาย  ณรงค์  วุ่นซิ้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ สมาชิกเหล่ากาชาด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายบังคม และถวายราชสดุดีแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2565 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ด้วยพระปรีชาสามารถต่อการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การศึกษา การสาธารณสุข ตลอดจนสาธารณูปการต่าง ๆ ทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าและรักษาความเป็นเอกราชมาได้จนถึงทุกวันนี้ และพสกนิกรชาวไทยได้น้อมใจถวายพระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชน และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวัน “ปิยมหาราช” เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ด้านพระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชกาลที่ 5 หลายคนคงทราบแล้วว่าพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของพระองค์ ก็คือ การเลิกทาส ตั้งแต่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ด้วยทรงไม่ต้องการให้มีการกดขี่เหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง และทรงเห็นว่าการมีทาสเป็นสิ่งที่ล้าสมัย ไม่เหมาะกับประเทศที่เจริญแล้ว โดยในปี พ.ศ. 2416 พระองค์ได้ทรงตราพระราชบัญญัติทาส ห้ามคนที่เกิดในรัชกาลปัจจุบันเป็นทาส

ด้านสาธารณูปโภค ทรงมีพระราชดำริว่าประชาชนควรมีน้ำสะอาดเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค พระองค์จึงทรงให้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำน้ำประปาขึ้น นอกจากนี้ พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นค่าก่อสร้างโรงพยาบาลวังหลัง (ซึ่งปัจจุบันคือโรงพยาบาลศิริราช) เพื่อเป็นสถานที่สำหรับรักษาประชาชนที่เจ็บป่วย อีกด้วย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่