ภูเก็ตหารือเร่งตั้งศูนย์รับแจ้งแรงงานต่างด้าว-ชะลอการจับกุม

ภูเก็ต - จังหวัดเร่งหารือช่วยนายจ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเตรียมยื่นคำขออนุญาตทำงาน

เปรมกมล เกษรา

วันเสาร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2560, เวลา 10:32 น.

วันที่ 8 ก.ค. 60 ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผู้กำกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดภูเก็ต พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 25 นายขัตติยะ แพรเดช จัดหางานจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหลังคสช.ประกาศใช้ม.44 ในการยืดการใช้พรก.ต่างด้าวออกไป 180 วัน

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “วันนี้ทางจังหวัดได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวเพื่อสร้างความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน วันนี้จึงได้ข้อสรุปว่ากลุ่มแรงงานที่ผิดกฎหมายหรือไม่มีหลักฐานการจ้างงานจากนายจ้างนั้นให้ชะลอการเดินทางกลับภูมิลำเนาก่อน จนกว่ากระทรวงแรงงานจะจัดตั้งศูนย์รับแจ้งแรงงานเพื่อให้นายจ้างเข้ามาแจ้งรายละเอียดของแรงงานต่างด้าว เพื่อออกเอกสารกำกับตัวเพื่อให้เดินทางไปจังหวัดระนองเพื่อทำหลักฐานการทำงานอย่าถูกกฎหมายต่อไป”

ทั้งนี้ศูนย์ฯดังกล่าว จะเปิดให้กรอกคำร้อง ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนนายจ้าง เพื่อพิสูจน์ความเป็นนายจ้างและลูกจ้าง และจะออกหนังสือยืนยันการทำงาน สำหรับนำไปใช้ขอพิสูจน์สัญชาติและใบอนุญาตทำงานและจะเปิดให้บริการเพียง 15 วัน ดำเนินการได้ที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2560 ทั้งนี้นายจ้างและคนต่างด้าวจะต้องมาติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด เพื่อดำเนินการดั้งนี้ นายจ้าง ยื่นคำขอจ้างคนต่างด้าว ส่วนคนต่างด้าว ยื่นคำขออนุญาตทำงาน จากนั้นเมื่อทางสำนักงานจัดหางานจังหวัด ออกเอกสารรับรองให้แล้วจึงนำเอกสารเดินทางไปที่ศูนย์ตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวเมียนมาร์ในไทย 6 ศูนย์ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เชียงราย ระนอง และตาก เพื่อดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานตามขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้กระทรวงแรงงานจะจัดตั้งศูนย์รับแจ้งขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค. 60 แต่ทางจังหวัดมีความเห็นว่าวันที่ 24 นั้นช้าไปสำหรับการดำเนินการทั้งหมด จึงจะทำหนังสือเพื่อแจ้งกรมแรงงานให้ทราบถึงความจำเป็นในการเร่งรัดจัดตั้งศูนย์รับแจ้งให้รวดเร็วมากกว่านี้ เพราะในระยะเวลานี้อาจเกิดช่องโหว่ที่ทำให้กลุ่มค้าแรงงานฉวยโอกาสสวมรอยและเกิดผลกระทบต่างๆอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ในขณะนี้จึงห้ามมิให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตนั้นปฏิบัติงานใดๆ เพียงแต่ให้ชะลอกาารเดินทางไปยังจ.ระนองก่อน

พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง กล่าวว่า “กลุ่มแรงงานต่างด้าวจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีเอกสารยืนยันตนเช่นพาสปอร์ต และนายจ้างพร้อมรองดำเนินการเรื่องเอกสาร ซึ่งกลุ่มนี้นั้นนายจ้างสามารถมาแจ้งรายละเอียดของเพื่อขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกกฎหมายได้ที่ศูนย์รับแจ้งที่จะจัดขึ้นให้ และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่ไม่มีเอกสารยืนยันตนใดๆ กลุ่มนี้สามารถเดินทางกลับไปประเทศเพื่อไปทำพาสปอร์ตและกลับมาขออนุญาตทำงานกับนายจ้างให้ถูกกฎหมาย หรือมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแรงงานชาวเมียนมาเท่านั้นคือเดินทางไปยังจังหวัดระนองเพื่อทำการพิสูจน์สัญชาติเพื่อทำเอกสารยืนยันตน เนื่องจากเมียนมาเป็นประเทศเดียวที่ส่งเจ้าหน้าที่เมียนมามาประจำในประเทศไทยเพื่อประสานงานด้านเอกสารเพื่อความสะดวกของแรงงาน”

“ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะละเว้นการจับ-ปรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตไปแล้ว 2 กรณีในประเทศไทย ซึ่งสุดท้ายแล้วศาลได้ยกฟ้องเนื่องจากอยู่ในช่วงชะลอการใช้พรก.จากการออกมาตรา 44” 

พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค กล่าวว่า “นับตั้งแต่พรก.แรงงานต่างด้าวใหม่มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้แรงงานต่างด้าวตื่นกลัวกฎหมาย แรงงานในส่วนที่ไม่มีใบอนุญาตและไม่มีเอกสารยืนยันตนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมากโดยไม่ได้ผ่านพิธีการตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด แรงงานจะต้องไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจก่อนเพื่อแจ้งว่าตนอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายเนื่องจากทางการไทยจำเป็นต้องบันทึกไว้ในฐานข้อมูล ซึ่งความผิดอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายนั้นไม่มีบทลงโทษใดๆเพียงแค่ต้องผลักดันกลับประเทศต่อไป เว้นเพียงแต่คนที่มีความผิดนอกเหนือจากการอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย จากนั้นแรงงานจึงค่อยเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่