ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐมีคำสั่งระงับการนำเข้าสุนัขจาก 113 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย จากกรณีที่ตรวจพบสุนัขเข้าประเทศพร้อมใบรับรองวัคซีนพิษสุนัขบ้าปลอมในปีที่ผ่านมา ส่งผลเสียและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าภายในประเทศ คำสั่งดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ก.ค. โดยมีผลต่อการนำเข้าสุนัขทุกชนิด รวมถึงลูกสุนัข สุนัขเพื่อการบำบัด สุนัขที่เดินทางออกนอกสหรัฐฯ และกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง และสุนัขที่เดินทางกลับมาจากประเทศอื่นๆ ที่เคยเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงสูงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยมองว่ามาตรการนี้ไม่ยุติธรรมต่อหน่วยงานที่นำเข้าสุนัขอย่างถูกวิธี แต่กลับต้องรับผลกระทบนี้ด้วย
มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก) เป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือสัตว์จรจัดและดำเนินการหาบ้านใหม่ให้แก่สุนัขและแมวที่มีความพร้อมและสุขภาพดีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปฏิบัติตามกฏหมายและระเบียบข้อบังคับของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด สัตว์ทุกตัวได้รับการตรวจสุขภาพและได้วัคซีนครบตามกำหนด ซึ่งรวมถึงวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า โดยสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศปลายทางที่มูลนิธิฯ ส่งสุนัขและแมวไปบ้านใหม่จำนวนหลายสิบตัวทุกปี
จากการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกับมูลนิธิฯ จังหวัดภูเก็ตได้รับการประกาศจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นเขตปลอดโรคระบาดชนิดพิษสุนัขบ้าของสุนัขและแมว โดยมีการประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. พ.ศ. 2550 นับเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยที่ปลอดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ซอยด๊อกได้ยื่นคำร้องต่อศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ร่วมกับประชาชนทั่วไปที่ต้องการเรียกร้องให้ทางการของสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงมาตรการดังกล่าว โดยเสนอให้พิจารณาการตรวจระดับภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้า หรือ Rabies Antibody Titer Test (RTT) ก่อนการนำสุนัขเข้าประเทศ มูลนิธิฯ จะนำส่งสุนัขทุกตัวตรวจหาเชื้อจากห้องแลปปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองล่วงหน้าสามเดือนก่อนวันเดินทาง ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่หลายประเทศประกาศใช้และรับรองว่าปลอดภัยตามมาตรฐานการขนส่งสัตว์ระหว่างประเทศ และเสนอว่าวิธินี้สามารถปรับใช้กับมาตรการการนำเข้าสุนัขของสหรัฐฯ ได้เช่นกัน
สุนัขทั้ง 86 ตัวนี้เป็นกลุ่มสุดท้ายจากมูลนิธิฯ ที่เดินทางจากประเทศไทยสู่สหรัฐฯ ก่อนการแบนอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
