สำหรับวิธีการ CNVR นี้ ได้ถูกนำไปใช้ในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน และพังงา ซึ่งสามารถลดปริมาณสุนัขจรจัดในแต่ละที่ได้อย่างมีมนุษยธรรม
“เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ก้าวมาถึงจุดนี้ ซึ่งก็ต้องขอแสดงความขอบคุณผู้ที่สนับสนุนเราจากทั่วทุกมุมโลก” จอห์น ดัลลีย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยกล่าว “การทำหมันนี้ได้ช่วยคุมกำเนิด และทำให้ลูกสุนัขและแมวจำนวนนับไม่ถ้วนไม่ต้องเกิดมาใช้ชีวิตแสนสั้นอันทรมาน ต้องพบเจอแต่กับความอดอยาก โรคภัย และความทารุณต่างๆ ตามข้างถนน”
“มีสุนัขและแมวจรจัดจำนวนไม่มากที่จะโชคดี มีองค์กรด้านสัตว์อย่างมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยหรือองค์กรอื่นๆ มาพบและช่วยดูแลหาบ้านที่อบอุ่นให้” เขากล่าว
ขณะนี้ เป้าหมายในการทำ CNVR ของมูลนิธิฯ มุ่งไปที่สุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพราะคาดการณ์ว่าน่าจะมีจำนวนสุนัขจรจัดราวๆ 640,000 ตัว ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้จัดหน่วยทำหมันเคลื่อนที่จำนวน 4 หน่วยกระจายตัวตามเขตต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งหน่วยที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย
ในการทำหมันสุนัขและแมวแต่ละตัวนั้น จะมาพร้อมวัคซีน 6 โรคซึ่งรวมถึงโรคพิษสุนัขบ้า (เรบีส์) ด้วย นอกจากวัคซีนรวมแล้ว ยังมีการดูแลกำจัดเห็บและหมัดให้ก่อนจะปล่อยกลับสู่ถิ่นเดิม ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น
สุนัขและแมวที่ได้รับการทำหมันและฉีดวัคซีนจากมูลนิธิฯ จะมีการสักตัวเลขที่ใบหูเพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าสุนัขและแมวเหล่านี้ปลอดภัยที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชุมชน
ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการทำ CNVR เห็นได้จากการที่ภูเก็ตเคยมีสุนัขจรจัดประมาณ 80,000 ตัวในปีพ.ศ. 2546 และลดลงเหลือเพียงประมาณ 6,500 ตัวในปัจจุบัน อีกทั้งภูเก็ตยังเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการประกาศจากภาครัฐว่าเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า
ในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากจะเป็นเดือนที่มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยครบรอบ 15 ปีแล้ว ยังเป็นเดือนดี ๆ ที่มูลนิธิฯ ได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง รางวัล Rescue Organization of the Year จาก Pet Philanthropy Circle พร้อมทั้งรางวัล People’s Choice Award จากงานเดียวกัน ที่จัดขึ้นที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา
แจนิส โรเซนทัล ประธานมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา และคริสตี เบเกอร์ ผู้จัดการด้านการช่วยเหลือสัตว์จรจัดระหว่างประเทศ ได้เป็นตัวแทน จอห์น ดัลลีย์ เพื่อรับรางวัลดังกล่าว