ภายหลังจากสำนักงานนโยบายและแผนดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบแนวเส้นทาง รวมทั้งวิเคระห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเบื้องต้นรูปแบบจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือพีพีพี
นายศิริเกษ อภิรัตน์นักวิชาการนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวได้ถูกบรรจุไว้ในโครงการ Fast Track ปีงบประมาณ 2560 ของรัฐบาลที่ดำเนินการผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดโครงการโดยเร็วที่สุด
ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกุล รักษาการผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จะเร่งให้มีการคัดเลือกผู้รับสัมประทานได้ภายในต้นปีหน้า ในขณะเดียวกัน รฟม.จะดำเนินการจัดทำรายงานพีพีพี ส่งไปสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ส่งไปบอร์ดพีพีพี และเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้แล้ว เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้รับเหมาได้ในต้นปีหน้า ต่อไป
ทั้งนี้นายศิริเกษ กล่าวว่า “มูลค่าการดำเนินโครงการขณะนี้อยู่ที่ 39,400 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะเริ่มสร้างจากท่าอากาศยานภูเก็ตถึง 5 แยกประกอบด้วย 6 ทางลอด และ 1 สถานียกระดับ ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ประกอบด้วย 24 สถานี โดยในพื้นที่เขตเมืองเก่า จะออกแบบให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นรูปแบบของย่านเมืองเก่าของภูเก็ต คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในปีหน้า และโครงการมีระยะเวลา 3 ปี หรืออาจจะแล้วเสร็จก่อนกำหนด”
เบื้องต้นได้มีการกำหนดค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 18 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทางที่ 2.50 บาทต่อกิโลเมตร โดยทางสนข.จะเข้าร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 8 มิถุนายน นี้ เพื่ออธิบายรูปแบบการดำเนินการและสถานการณ์ปัจจุบันของโครงการดังกล่าวเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันและเพื่อความร่วมมือในการผลักดันโครงการต่อไป