รองอธิบดีทช.ลงภูเก็ต ตรวจยึดนากุ้งร้าง 42 ไร่ รุกป่าชายเลนบางโรง

สั่งแจ้งความดำเนินคดีหาตัวคนผิด ก่อนเตรียมแผนฟื้นฟูร่วมกับท้องถิ่น เผยมีเป้าหมายทวงคืนป่าชายเลนอีก 5,000 ไร่ทั่วประเทศ

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560, เวลา 09:57 น.

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 60 นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำทีมเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ อีก14 หน่วยงานใน จังหวัดภูเก็ต รวมกำลังเจ้าหน้าที่ ประมาณ 85 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในฟาร์มกุ้งร้าง ไม่มีเลขที่ริมถนนเส้นบางโรง - อ่าวปอ (ห่างจากโรงเรียนบ้านบางโรงประมาณ 1.5 กม.) หมู่ที่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนหน้าแล้วพบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนบ้านบางโรง มีเนื้อที่ประมาณ 42 ไร่

ตรวจสอบในพื้นที่ ไม่พบผู้อยู่อาศัย มีเพียงร่องรอยการใช้ประโยชน์ โดยพบอาคาร 2 หลัง มีการเขียนอักษรบนอาคารว่า “ศรีสุนทรฟาร์ม” โดยเป็นห้องพักและห้องเก็บของซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรม ถัดจากตัวอาคารเป็นบ่อกุ้งขนาดใหญ่จำนวน 5 บ่อ อยู่ในสภาพรกร้างไม่มีการทำประโยชน์มานานหลายปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บภาพพร้อมค่าพิกัดเปรียบเทียบไม่พบว่าเคยมีการออกเอกสารสิทธิ์ในบริเวณดังกล่าว จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่สภ.ถลาง เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิด

นายโสภณ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อให้มีการสืบหาตัวผู้กระทำผิด หากสืบหาตัวผู้กระทำผิดได้ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หากสืบหาตัวไม่ได้เนื่องจากมีการทิ้งร้างหลายปี ก็ถือว่า กรมทช. จะต้องมีการทำโครง การฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าในช่วงแรก มีหลายหน่วยงาน ทั้งเทศบาลตำบลป่าคลอก กอ.รมน. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน แสดงเจตจำนงร่วมกันฟื้นฟู ก่อนที่ กรมทช. จะสามารถจัดสรรงบประมาณมาเพิ่มในปีถัดไป และสำหรับแปลงนี้จากการตรวจสอบ ไม่พบว่าเคยมีการออกเอกสารสิทธิ์ทำให้การยึดคืนกลับมาเป็นของรัฐนั้นทำได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และในแปลงนี้ยังนับเป็นแปลงแรกหรือ แปลงนำร่องของ 1 แสนไรในการนำกลับมาฟื้นฟู

นอกจากนี้ในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีพื้นที่บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเนื้อที่อีกประมาณ 60 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและดำเนินคดีเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี หากสิ้นสุดคดี และกรมทช.สามารถยึดคืนได้ก็จะเร่งฟื้นฟูเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าชายเลนของกรมทช.นั้น เป็น ไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 64/2557 และ 60 /2557 ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตและสิ่งแวดล้อม กอ.รมน. และสตช. ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าไม้ที่ผิดกฎหมาย โดย กรม ทช.ได้มีเป้าหมายทวงคืนผืนป่าจำนวน 1 แสนไร่ทั่วประเทศ โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการกับพื้นที่บุกรุกไปแล้ว 20,000 ไร่ ในปี 2560 นี้มีเป้าหมายทวงคืนอีก 5,000 ไร่ นายโสภณกล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่