ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษายกฟ้องอีก 1 คดี ที่ตระกูลดังฟ้องอาญาชาวเลราไวย์

นับว่าเป็นคดีที่ 3 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ตัดสินยกฟ้อง

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2560, เวลา 10:58 น.

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 มี.ค.ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต นายบัญชา หาดทรายทอง ชาวเลราไวย์พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ถาวรล้ำเลิศ ทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีอาญาเลขที่ 1869/59 ที่นางบุญศรี ตันติวัฒนวัลลภเเละ นางสาวจินดารัตน์ ธรรมจักร ทายาทนาย จำเริญ มุกดี ผู้จัดการมรดกของนายทัน มุกดี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายบัญชา หาดทรายทอง จำเลยซึ่งเป็นชาวเลหาดราไวย์  ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ฐานบุกรุก เเละถอนหลักหมุดที่ดิน ของที่ดิน ในพื้นที่ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 95230 เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 73 ตารางวา ซึ่งนายบัญชาจำเลยได้มีการสร้างเป็นร้านอาหาร ติดกับบ้านเลขที่ 117/2 ม.2 ต.ราไวย์ ของนายแอ่ว หาดทรายทองผู้เป็นบิดา ซึ่งถูกเคยถูกโจทย์รายเดียวกันฟ้องละเมิดขับไล่ เเละศาลจังหวัดภูเก็ตได้ยกฟ้องเมื่อ วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา 

โดยสีหน้าของทั้งสองไม่เเสดงความกังวล เเละเข้ามาพูดคุยทักทายกับพี่น้องชาวเลราไวย์บางส่วนที่เดินทางมาให้กำลังใจก่อนจะรีบเข้าไปภายในอาคารศาล โดยศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาเป็นเวลาประมาณ 45 นาที ก่อนที่จะเดินออกจากศาล มาด้วยสีหน้าดีใจ และเข้าแจ้งผลคำพิพากษาต่อพี่น้องชาวเลที่รอลุ้นและให้กำลังใจอยู่บริเวณใกล้ลานจอดรถด้านหน้าอาคาร

นาย บัญชากล่าวว่า ผลตัดสินปรากฏว่า ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ยกฟ้องในคดีดังกล่าว โดยให้เหตุผล หลักๆ 2 ประการคือ 1. ศาลได้วินิจฉัย ว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องในคดีแพ่ง ที่โจทย์รายเดียวกันยื่นฟ้อง (มีนายบัญชาเป็นจำเลยที่ 4) ไปแล้ว ตามหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่นำมาหักล้าง และประการที่ 2 กรณีที่โจทย์กล่าวอ้างว่าจำเลย(นายบัญชา) มีการทำลายหลักหมุดที่ดิน ซึ่งขณะนั้นทั้งคู่ได้มีการต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งต่างฝ่ายต่างแย่งสิทธิ์ การกระทำใดๆในระหว่างนั้นจึงไม่เกิดผล จึงยกฟ้องโดยไม่ต้องมีการวินิจฉัย   

ทั้งนี้ ตนเองต้องขอขอบคุณศาลจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ให้ความยุติธรรม รวมถึงขอบคุณพี่น้องชาวเลฯที่อยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กันเสมอมา หวังว่าในคดีของตนนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการต่อสู้คดี ให้ชาวเลรายอื่นๆมีความหวังในหารต่อสู้คดี เรียกร้องความยุติธรรมมากขึ้น นายบัญชากล่าว 

อย่างไรก็ตามในคดีนี้นับว่าเป็นคดีที่ 3 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ตัดสินยกฟ้อง โดยความช่วยเหลือของ เนื่องจากพบว่าหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่นำมาหักล้าง ทั้งข้อมูลการเรียนของนักเรียนชาวเลในโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ การตรวจดีเอ็นเอเชื่อมโยงกระดูกโบราณที่ขุดพบ การอ่านเเปลภาพถ่ายย้อนหลัง รวมถึงภาพถ่ายครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จเมื่อปี 2502 ซึ่งในภาพดังกล่าวสามารถยืนยันได้ว่าต้นมะพร้าวมีอายุมากกว่า 35 ปี เเย้งข้อมูลของโจทย์ที่ระบุว่าปลูกมะพร้าวอายุประมาณ 10 ปี หลังเข้าแจ้งขอออกเอกสารสิทธิ์ เเละศาลฯยังวินิจฉัยว่าโฉนดที่ดินยังเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ทำให้โจทย์ ซึ่งเป็นทายาทของผู้จัดการมรดกไม่สามารถฟ้องร้องจำเลยได้ และมีการยกฟ้องไปถึง 2 คดี ที่ผ่านมา

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่