ศาลสั่งจำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4 พัน ‘ส.ต.ต.’ ซิ่งบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย

ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4 พันบาท โดยไม่รอลงอาญา ’ส.ต.ต.’ ซิ่งบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายดับ พร้อมยึดรถ เพิกถอนใบขับขี่้ทั้งจักรยานยนต์และรถยนต์

โพสต์ทูเดย์

วันจันทร์ ที่ 25 เมษายน 2565, เวลา 12:49 น.

ภาพ โพสต์ทูเดย์

ภาพ โพสต์ทูเดย์

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 65 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่ พนักอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นจำเลยในความผิด ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม9 ข้อหา

จากกรณีขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์โรงพยาบาล (รพ.) ราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวง-เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จนเสียชีวิต

สำหรับข้อหาที่ พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหาได้แก่
1.นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ
2.ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
3.ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย
4.นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง
5.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
6.ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
7.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
8.ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง
9.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

นอกจากนี้ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการ ยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย

ขณะที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ แถลงให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี โดยส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้รับการปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา โดยศาลตีราคาประกัน 50,000 บาท

ศาลได้พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา ลงโทษจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง

ความผิดฐานนำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ ปรับ 1,000 บาท
ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 1,000 บาท
ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหาย ปรับ 1,000 บาท
ฐานใช้รถโดยมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์ สำหรับรถไม่ครบถ้วน ปรับ 1,000 บาท
ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุก 15 วัน
ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 1 ปี
รวมโทษแล้วจำคุก 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท

พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงมาก ประมาณช่วงระหว่างความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังขับแซงรถคันอื่นใกล้กับบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรทางข้าม (ทางม้าลาย) ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลและสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นเขตเมืองและเป็นเขตชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากไปรับบริการและใช้ทางดังกล่าวเป็นปกติตลอดทั้งวัน อันเป็นการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้สัญจรอื่น ๆ บนท้องถนนประกอบกับจำเลยขับรถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายกับผู้ประสบภัยจากรถ แม้จำเลยจะพยายามบรรเทาผลร้ายแล้ว แต่พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว ถือว่าเป็นร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษจำเลย

สำหรับรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบ และหากจำเลยขับรถต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงให้ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว
หลังจบการอ่านคำพิพากษา นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความหมอกระต่าย เปิดเผยว่า ได้แจ้งคำพิพากษากับพ่อและแม่ของหมอกระต่ายแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งหากจำเลยยื่นอุทธรณ์ก็พร้อมต่อสู้คดี โดยจะต้องหารือกับครอบครัวของหมอกระต่ายอีกครั้ง และจะต้องเอาผลของคำพิพากษาของอาญาไปยื่นต่อศาลแพ่งด้วย เพราะคดีเเพ่งยังอยู่ ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งจำเลยทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้ขอขยายเวลาการยื่นคำให้การ ศาลเเพ่งจึงนัดพร้อมคดีในวันที่ 8 ส.ค.

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่