โดยปลายแถวอาจจะล้นออกมานอกประตูทางเข้าจุดตรวจในบางช่วงของวัน นักท่องเที่ยวควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดเที่ยวบิน หรือเลือกเดินทางช่วงเช้าตรู่หรือรอบดึกของวันเพื่อหลีกเที่ยงความคับคั่ง
ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ฝั่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศที่อาคารผู้โดยสารใหม่นั้นคับคั่งกว่าฝั่งขาออกภายในประเทศกว่าเท่าตัว โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติยืนต่อคิวรอเอ็กซเรย์สัมภาระ ซึ่งแถวมีความยาวกว่า 70-80 เมตร ประกอบไปด้วยนักท่องเที่ยวเกือบร้อยคนที่ประตูทางเข้า 1 และ 1 ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการจุดตรวจสัมภาระเพียงจุดละ 2 คน
นายชาฮารี มะหมุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาคารผู้โดยขาออกระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวคับคั่งมาก ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนและรัสเซีย คิวยาวแบบนี้แทบตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาที่แออัดมากที่สุดคือช่วงตี 3 - ตี 5 และเวลาเที่ยงไปจนถึงบ่ายสาม แต่ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะคับคั่งเป็นพิเศษที่บริเวณประตู 1 เนื่องจากไม่ทราบว่ามีประตู 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร ฉะนั้นหากคนขับรถตู้หรือรถทัวร์ที่ส่งมาส่งผู้โดยสายสามารถส่งได้ที่บริเวณประตู 2 เพื่อเป็นการกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวและลดความแออัดในการเข้าแถวไปได้
ทั้งนี้ นายชาฮารีได้บอกกับผู้สื่อข่าวถึงวิธีการหลีกเลี่ยงความแออัดอีกวิธีหนึ่งว่า ผู้โดยสายสามารถเข้าสู่อาคารผู้โดยสารได้ที่ประตู 1 และประตู 5 จากชั้น 1 ของอาคารเพราะเครื่องเอ็กซเรย์สัมภาระพร้อมบริการอยู่แล้วทั้งด้านหน้าของทั้งสองประตู จากนั้นจึงขึ้นลิฟต์ต่อไปยังชั้น 3 เพื่อทำการเช็คอินที่เคาเตอร์สายการบิน โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเข้าสู่อาคารผู้โดยสารแห่งนี้
ผู้สื่อข่าวข่าวภูเก็ตมีความต้องการสอบถามไปยังนางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ในเรื่องของมาตรการการรองรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ไม่กลับไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด
ทางด้านการเดินทางทางบกนั้นดำเนินไปอย่างสะดวกคล่องตัว นายชบ พุทธสุภะ นายสถานีเดินรถขนส่งจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานีขนส่งแห่งใหม่นี้จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่เพราะประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเยอะ ทั้งในพื้นที่ภาคใต้และภาคอื่นๆ โดยมีเที่ยวรถรองรับผู้โดยสารไปยังหลากหลายจังหวัด แต่ถ้าหากไม่มีเส้นทางเดินรถโดยตรงไปยังจังหวัดที่ต้องการก็สามารถโดยสารไปลงที่กรุงเทพก่อนได้ ที่ผ่านมาได้มีประชาชนเริ่มทะยอยกลับบ้านตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม แต่จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม - 3 มกราคม โดยทางขนส่งได้เตรียมรถโดยสารเส้นทางภูเก็ต-กรุงเทพสำรองไว้รองรับผู้โดยสารทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้างในช่วงเทศกาลแห่งการกลับบ้านไปเยี่ยมเยียนผู้เป็นที่รัก
โดยในช่วง 31 ธันวาคมที่ผ่านมาได้จัดรถโดยสารเดินทางไปกรุงเทพทั้งหมด 27 เที่ยว เที่ยวละ 46 ที่นั่ง วันที่ 1 มกราคม มีรถที่สำรองที่นั่งเต็มแล้ว 22 คัน แต่ทางขนส่งได้จัดรถสำรองไว้เพิ่มเติมแล้ว 2 คัน โดยคิดเป็นที่นั่ง 80 ที่นั่ง สำหรับวันที่ 2และวันที่ 3 มีรถที่สำรองที่นั่งเต็มแล้ว 28 คัน ได้สำรองรถไว้ 2 คัน ทางขนส่งคาดการณ์ว่าผู้โดยสารจะเริ่มเบาบางลงในวันที่ 4 เนื่องจากประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่การทำงานหลังจากเทศกาลวันหยุดยาวจบลง
สำหรับเส้นทางในเขตพื้นที่ภาคใต้ก็คึกคักไม่แพ้เส้นทางกรุงเทพ ซึ่งเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุดได้แก่ พัทลุง สตูล ระนอง หาดใหญ่ และเบตง โดยเส้นทางภูเก็ต-พัทลุง และ ภูเก็ต-สตูล จะมีผู้โดยสารเดินทางมากเป็นพิเศษ จากปกติมีเที่ยวรถ 8 เที่ยวต่อวันก็ได้เพิ่มเที่ยวรถรองรับเข้าไป 6-7 เที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้น ส่วนในด้านโซนภาคอีสาน เส้นทางภูเก็ต-หนองคาย และภูเก็ต-อุบลราชธานี ได้เพิ่มเที่ยวรถเพิ่มเติมพิเศษวันละ 2 เที่ยว
