สมาชิกสนามกอล์ฟสุดทน ขึ้นค่ารายปี 300%

สมาชิกสโมสรสนามกอล์ฟชื่อดัง ยื่นหนังสือถึงประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อร้องเรียนการขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปี ค่าธรรมเนียมโอนประเภทบุคคลธรรมดา

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม 2560, เวลา 10:49 น.

วานนี้ (13 มีนาคม 60) ที่ห้องประชุมศากลางหลังเก่า สมาชิกสโมสรสนามกอล์ฟ เข้ายื่นหนังสือเรื่องการร้องเรียน การขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปี ค่าธรรมเนียมโอนประเภทบุคคลธรรมดาสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง โดยมี นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับมอบ

ตัวแทนสมาชิกสโมสรฯ กล่าวว่า สโมสรฯได้ออกประกาศเรื่องกำหนดเงื่อนไขในการโอนสมาชิกภาพ ค่าสมาชิกและค่าธรรมเนียม ฉบับลงวันที่ 22 มีนาคม 2560 ใช้บังคับแก่สมาชิก กำหนดให้ค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปี ประเภทบุคคลธรรมดา จากเดิมค่าสมาชิกรายปีประเภทบุคคลธรรมดาปีละ 22,500 บาท เป็นชำระค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทบุคคลธรรมดาใหม่เป็นปีละ 70,000 บาท และขึ้นค่าธรรมเนียมในการโอนสมาชิกภาพประเภทบุคคลธรรมดาให้บุคคลอื่นจากเดิม 140,000 บาท เป็นอัตราใหม่ 250,000 บาทและในนามองค์กรเป็นเงิน 350,000 บาท ค่าธรรมเนียมสมาชิกภาพรายปีประเภทองค์กรปีละ 70,000 บาทค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับผู้ถือบัตรสิทธิพิเศษแก่ครอบครัว 14,000 บาท

โดยให้สมาชิกชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวภายในวันที่ 22 มีนาคม 2560 หากสมาชิกไม่ชำระตามประกาศ จะพิจารณาเรื่องสมาชิกภาพของสมาชิก

ซึ่งในการขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นการเพิ่มภาระแก่สมาชิกสนามกอล์ฟ และขึ้นค่าธรรมเนียมสูงกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ได้แจ้งให้สมาชิกทราบมาก่อน และไม่ได้รับการยินยอมจากสมาชิกแต่อย่างใด เป็นการขึ้นค่าธรรมเนียมตามอำเภอใจเพียงฝ่ายเดียว เพิ่มภาระให้แก่สมาชิกซึ่งเป็นผู้บริโภคอย่างรุนแรง เป็นการฝ่าฝืนต่อข้อบังคับของสโมสรปีพ.ศ. 2533 ขัดต่อกฎหมายและตามประกาศฉบับลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่สมาชิกเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของสมาชิกทั้งไทยและชาวต่างชาติตามข้อบังคับของสโมสรสนามกอล์ฟดังกล่าว ทางสมาชิก จึงขอร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการให้ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟชี้แจงข้อเท็จจริง และให้เชิญผู้ประกอบการมาเจรจาตกลงกับผู้ร้อง

หากมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดีแทนจนถึงที่สุด และทางคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ตและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้มีการรับเรื่องไว้ และจะดำเนินการเรียกประชุมเพื่อหารือทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่