เบื้องต้นที่เกิดเหตุพบนายเคอิตะ โคชิโกอิ อายุ 37 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น มีบาดแผลฉีกขาดหลายแผลที่เท้าลักษณะเป็นรอยบาดยาวคล้ายโดนของมีคมจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเเละนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปโรงพยาบาลด้วยตนเองจึงให้เดินทางไปเอง และได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ก่อนจะทำแผลและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
สอบถามเบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้มาเล่นกระดานโต้คลื่นอยู่ที่หน้าชายหาดห่างจากฝั่งไปหลายสิบเมตร กระทั่งได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลคล้ายถูกสัตว์ทะเลไม่ทราบชนิดดังกล่าวกัดที่บริเวณเท้าจึงรีบขึ้นมาบนชายฝั่งเพื่อขอความช่วยเหลือก่อนที่จะมีผู้แจ้งเจ้าหน้าที่
หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้เดินทางที่มาดูเหตุการณ์ส่วนใหญ่ระบุว่าจากรอยฟันน่าจะเป็นฝีมือของปลาสากเพราะเป็นปลาที่มีฟันแหลมคมซึ่งที่ผ่านมาพบว่าอาศัยอยู่ในแนวปะการังหน้าชายหาดเป็นจำนวนมาก
ด้านดร.ก้องเกียรติกิตติวัฒนาวงศ์ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันกล่าวว่าจากการตรวจสอบลักษณะบาดแผลเชื่อว่าเป็นฝีมือของ Blacktip Reef Shark หรือฉลามหูดำหรือฉลามครีบดำซึ่งพบว่ามีแหล่งอาศัยอยู่ทั่วไปในแนวปะการังใกล้ชายฝั่งทั้งทะเลทั้งอ่าวไทยเเละอันดามัน
โดยฉลามชนิดนี้เมื่อโตเต็มวัยลำตัวประมาณ 1 ถึง 2 เมตรมีนิสัยไม่ดุร้ายชอบกินปลาขนาดเล็กเป็นอาหารแต่ในรายนี้คาดว่าขณะที่นักท่องเที่ยวเล่นกระดานโต้คลื่นห่างจากชายฝั่งทำให้คิดว่าเป็นเหยื่อจึงพุ่งเข้างับจนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ดร.ก้องเกียรติได้กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคล้ายกับที่เกิดขึ้นที่ชายหาดกะรนเมื่อสองปีที่ผ่านมาคือนักท่องเที่ยวถูกสัตว์ทะเลกัดที่ขาขณะลงเล่นน้ำที่หน้าชายหาดซึ่งขณะนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นฝีมือของ Bull Shark หรือฉลามหัวบาตร ซึ่งมีความดุร้ายบางส่วนก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของปลาปักเป้าแต่ความจริงแล้วมันน่าจะเป็นฝีมือของฉลามหูดำซึ่งพบได้บ่อยครั้งในทะเลอันดามัน
“แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นอยากฝากถึงนักท่องเที่ยวและชาวบ้านว่าไม่น่าจะต้องกังวลจนเกินเหตุเพราะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากและไม่อยากให้เกิดการแตกตื่น” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว