สองชาวเลราไวย์ยอมออกจากบ้านหลังแพ้คดี

สองชาวเลฯราไวย์และพวกยอมออกจากบ้าน ตามขั้นตอนบังคับคดี หลังศาลฏีกามีคำตัดสินให้แพ้คดี ตั้งแต่ปี 55

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 10 พฤษภาคม 2560, เวลา 11:05 น.

ภาพโดย เอกภพ ทองทับ

ภาพโดย เอกภพ ทองทับ

วันที่ 8 พ.ค.60 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต นายอานัน บางจาก ชาวเลราไวย์ พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ถาวรล้ำเลิศ ทนายความ เดินทางเข้ารายงานตัวตามนัดของศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมชี้แจงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล ในฐานะเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีดำแพ่งเลขที่ 510,511/2554 และคดีแดงเลขที่ 313 , 314/2555 ซึ่งเป็นคดีที่ นายสุเทพ มุขดี และนายทวี มุขดี ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โฉนดเลขที่ 7957 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ตที่นายอานันปลูกบ้านอาศัยยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ให้ชาวเล 2 ราย ประกอบด้วย คือนายมะเหร็น บางจาก จำเลยที่ 1 และ นาย อานัน บางจาก จำเลยที่ 2 รื้อบ้านเลขที่ 123 / 5 และ บ้านเลขที่ 131 ม.2 ต..ราไวย์ ออกไปจากที่ดินของโจทย์ และให้ร่วมชดใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้อง จำนวนคนละ 3,000 บาทแก่โจทย์ทั้งสอง และอีกคนละ 1,000 บาท ต่อเดือนไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทย์ทั้งสอง กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทย์ทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท

ซึ่งหลังจากมีคำพิพากษาก็ได้เข้าสู่กระบวนการบังคับคดีตามขั้นตอนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าว (23 กุมภาพันธ์ 2560) ขณะที่ฝ่ายโจทย์นำเจ้าหน้าที่เข้าบังคับคดี ได้มีกลุ่มชาวเลราไวย์นับร้อยคน มานั่งล้อมรอบบ้านหลังดังกล่าวเพื่อขอไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอน จนท.เกรงจะมีการปะทะยอมถอยกลับ ก่อนที่โจทย์จะยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณา

โดย นายอานัน และทนายความ ได้ใช้เวลาชี้แจงต่อศาลประมาณ 2 ชั่วโมง (13.00 น. – 15.00 น.) ก่อนเดินออกมาจากศาลและรีบเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายพสิษฐ์ ถาวรล้ำเลิศ ทนายความ เปิดเผยสั้นๆว่า ในวันที่ 8 พ.ค.60 ศาลฯได้นัดพร้อม สืบเนื่องจากที่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากพื้นที่ และมีหมายบังคับคดีให้จำเลยออกจากพื้นที่ไปแล้ว รวมทั้งที่มีการจับกุมและประกันตัวไว้ในชั้นฏีกา ตอนนี้จึงมาแจ้งต่อศาลว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามแล้ว ศาลท่านได้สั่งคืนเงินประกันและห้ามยุ่งเกี่ยวกับบ้าน และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทย์เข้าไปรื้อถอนบ้านของจำเลยได้ ซึ่งศาลท่านไม่ได้ระบุไว้ว่าจะเริ่มให้ดำเนินการได้เมื่อไหร่ ซึ่งจำเลยพร้อมยอมปฏิบัติตามคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าไปยังบ้านเลขที่ 123/5 และ 131 ซอยมุขดี หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตเพื่อเตรียมเข้ารื้อถอน ได้มีกลุ่มชาวเลราไวย์ประมาณ 20 คน เข้ามาขอร้องไม่ให้มีการรื้อถอน กระทั่งเจ้าหน้าที่บังคับคดี นำโดยนายธีระศักดิ์ เอียดชูทอง นิติกร สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ 2 คน นำเอกสารบังคับคดีมาเพื่อชี้แจงให้กับทางชาวเลผู้เป็นเจ้าของบ้าน (จำเลยทั้งสอง) ทราบ แต่ปรากฏว่าทั้งสองคนไม่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแจ้งกับผู้ถูกบังคับดีได้ จึงแจ้งให้ทางเจ้าของที่ดิน (โจทย์)คือ นายสุเทพ มุขดี กับนายทวี มุขดี รวมถึงนายเสทือน มุกดี ผู้ได้รับมอบอำนาจ และทนายความทราบว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเกรงจะเกิดกระทบกระทั่งกัน เนื่องจากมีกลุ่มชาวเลนั่งล้อมบ้านไว้

โดยทางเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินยืนยันว่า จะต้องทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้ได้เพราะได้เตรียมอุปกรณ์และกำลังคนไว้แล้ว แต่เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณบ้านเลขที่ 123/5 ได้มีกลุ่มชาวเลทั้งผู้หญิงและเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้ในมือก็ได้มาล้อมจนติดตัวบ้าน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเดินทางกลับ

แต่อย่างไรก็ตามนายพสิษฐ์ ก็มิได้แจ้งว่าจำเลยจะทำการย้ายออกเมื่อไหร่ อย่างไร เพียงแต่ระบุว่า จำเลยพร้อมยอมปฏิบัติตามคำสั่งของศาล

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่