จึงประสานไปยังศูนย์กู้ชีพ-กู้ภัย มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตและ ปภ.ภูเก็ตพร้อมด้วย ร.ต.อ.วิชัช คงคาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต และพ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต รุดไปตรวจสอบพร้อมกับอุปกรณ์รองรับการพลัดตกจากที่สูง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักสูง 4 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่กลางชุมชนที่รายล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์เป็นจำนวนมาก บริเวณขอบดาดฟ้าชั้น 4 พบหญิงสาววัยรุ่นสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดงลายดอกนั่งเหม่อลอยและร่ำไห้อยู่ โดยนั่งห้อยขาขวาลงมาข้างอาคาร ส่วนขาซ้ายนั่งชันเข่า มีมือซ้ายเท้าไว้ที่บริเวณศอก ซึ่งมีหน่วยกู้ภัยคอยเจรจาพูดคุยอยู่ไม่ห่าง เพื่อให้หญิงสาวดังกล่าวถอยกลับเข้ามา แต่ไม่เป็นผล โดยหญิงสาวได้อ้างถึงสาเหตุที่ต้องออกมานั่งร้องไห้ที่ขอบดาดฟ้ากับเจ้าหน้าที่กู้ภัย เนื่องจากตนเองถูกข่มขืนและอยากกลับบ้านเกิด
เวลาผ่านไปราว 30 นาที หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยพยายามจะหมุนตัวเองกลับหลังหัน แต่พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นขอบและแคบ ทำให้หญิงสาวเปลี่ยนใจใช้มือทั้งสองข้างห้อยตัวลงจากขอบดาดฟ้า ขาทั้งสองข้างทิ้งดิ่งลงข้างอาคารเป็นที่น่าหวาดเสียวอย่างมากท่ามกลางเสียงร้องจากประชาชนที่รอลุ้นระทึกอยู่บริเวณโดยรอบ
ขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือทั้งสองข้างห้อยร่างลงมาแนบกับตัวอาคารราว 2 นาที มือของหญิงสาวเริ่มอ่อนแรงและหมดเรี่ยวแรง จากนั้นมือทั้งสองข้างได้ถูกปล่อยออกจากขอบอาคาร ทำให้ร่างหญิงสาวร่วงลงสู่พื้นด้านล่างกระแทกกับกันสาดชั้น 1 เข้าอย่างจังเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
หน่วยกู้ภัยที่เตรียมความพร้อมอยู่ด้านล่างได้จู่โจมเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนพร้อมกับนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ตทันที เบื้องต้นหญิงสาวมีอาการสลบ ตาลอย มีเลือดไหลอาบจากบริเวณศีรษะ อาการสาหัส ตรวจสอบทราบชื่อภายหลัง (ข่าวภูเก็ต ขอสงวนนาม) อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่กรุงเทพฯ เช่าห้องพักอยู่ที่ ชั้น 3 ของแมนชั่นดังกล่าว โดยมาทำงานที่ จ.ภูเก็ตกับเพื่อนที่พักอยู่ห้องข้างเคียง จากการตรวจสอบห้องพักของหญิงสาว พบมีข้อความบนกระดาษที่ได้มีการเขียนด้วยลายมือจากปากกาเป็นการตัดพ้อชีวิตที่ล้มเหลวหรือไม่มีผู้คนเหลียวแลและเข้าใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่เธออ้างกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าเจรจาบนดาดฟ้าชั้น 4 ว่าถูกข่มขืนจริงหรือไม่ อย่างไร เจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง