ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 186/2560 ลงวันที่ 7 เมษายน 2560 ข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ” โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 82 หมู่ 4 ต.ชุมพล อ.สะทิ้งพระ จ.สงขลา
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 ได้มีคนร้ายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี ผมยาว สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สูงประมาณ 150 ซม.ได้เข้ามาที่ร้านทองยงดี ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทหลายๆ เส้น แต่ไม่ได้ซื้อสร้อยคอทองคำแต่อย่างใด แล้วได้เดินออกจากร้านไป เมื่อพนักงานของร้านทองเช็กสต๊อกพบว่าทองน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น หายไป เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหญิงสาวที่เข้ามาทำทีซื้อทองเป็นคนก่อเหตุ จึงได้แจ้งความไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และวันที่ 17 มี.ค.60 คนร้ายคนเดียวกันได้ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันที่ร้านทองยิ่งเจริญหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ (สวนหลวง) ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งกล้องวงจรปิดหน้าร้านได้บันทึกภาพและเห็นหน้าชัดเจน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
โดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.สส.สภ.อ่าวนาง ช่วยราชการรอง ผกก.สส.ภ.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสืบสวนหาข่าวจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อตามล่าตัวร้าย ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าหลังก่อเหตุได้หนีไปกบดานที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปติดตามจับกุม
จนสามารถยึดรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กย 1312 นครศรีธรรมราช ได้ในพื้นที่ ม.2 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวผู้ต้องหาไม่อยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ และไหวตัวหลบหนีไปกบดานที่ อ.สะทิ้งพระ จ.สงขลา หวังให้พ้นมือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามจับกุม แต่ ทางเจ้าหน้าที่ไม่นิ่งนอนใจตามแกะรอยข้อมูลจนทราบที่อยู่ที่ชัดเจน และบุกเข้าจับกุมตัวได้เมื่อเช้าวันนี้ ที่หน้าบ้านเลขที่ 82 ม.4ต.ชุมพล อ.สะทิ้งพระ จ.สงขลา
หลังจากจับกุมได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจยึดของกลาง ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้ขายทองที่ที่ขโมยให้กับร้านในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากตนจำเป็นต้องใช้เงินจึงก่อเหตุดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป