‘หลังเที่ยงคืน’ ภูเก็ตผ่อนคลายเอาใจสายบันเทิง ผับบาร์เปิดบริการใต้มาตรการป้องกันโรค

ภูเก็ต – ผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตอง เผยการเห็นชอบให้ขยายเวลาการเปิดให้บริการไปจนถึง 02.00 น. ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยว และกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะในธุรกิจของการท่องเที่ยวการบริการต่าง ๆ ของภูเก็ตและป่าตอง

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2565, เวลา 10:00 น.

นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น หรือปราบ ผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตอง ประธานพิโซน่ากรุ๊ป และประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต เกี่ยวกับกรณีขยายเวลาเปิดให้บริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาจากเดิมไม่เกิน 24.00 น. เป็นไม่เกิน 02.00 น.

โดยในวันเดียวกันนั้น ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ระบุว่า ศบค. แจงยังไม่อนุญาตเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ขายสุราเวลาใหม่ต้องรอกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อน

“เมื่อดูกฎหมายแล้ว มีการเชื่อมโยง 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.สถานบริการ ซึ่งมีสถานบริการหลายประเภท กฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิด-ปิด สถานบริการ ปี 2547 มีการกำหนดโซนนิ่ง เวลาเปิด-ปิดเหลื่อมกัน สูงสุดคือ 01.00 น./แต่สถานที่เต้นรำ 02.00 น. และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2558 เรื่องเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงมอบให้ฝ่ายกฎหมาย ไปหาข้อสรุป ขั้นตอนคือ ดูกฎหมายเก่าและมาผ่อนคลายอย่างไร ซึ่งต้องไปผ่านกระบวนการจัดการกฎหมายและเสนอ ครม. โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ถ้าให้เร็วคืออยากให้เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม แต่ต้องขอเวลาฝ่ายต่าง ๆ ทำงานก่อน”

ซึ่งล่าสุดคำสั่งจังหวัดภูเก็ตลงวันที่ 25 มิ.ย. 65 และมีผลบังคับใช้ทันที ระบุว่า อนุญาตให้ร้านอาหารบริการและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ รวมไปถึงสถานบริกาสามารถเปิดให้บริการได้ โดยต้องคำนึงหรือต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด

อย่างไรก็ตาม นายปรีชาวุฒิ ได้ให้ความเห็นว่า การเห็นชอบให้ขยายเวลาการเปิดให้บริการไปจนถึง 02.00 น. นั้น ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยว และกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน เกิดความเชื่อมั่น และเกิดศักยภาพที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในธุรกิจของการท่องเที่ยวการบริการต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ตและตำบลป่าตอง

“การขยายเวลาจะทำให้เกิดการการจ้างงานที่มากขึ้น มีการขยายกิจการต่าง ๆ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะสถานบริการสถานบันเทิงต่าง ๆ ก็น่าจะมีการลงทุนหรือมีการจัดระบบระเบียบ มีการจ้างงานมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นข่าวดี ถึงแม้ว่าเราอาจจะยังไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 04.00 น. ซึ่งจะเป็นไปตามบริบทที่แท้จริง เพื่อให้เรามีศักยภาพที่สูงขึ้นหรือศักยภาพสูงสุด ที่จะมาตอบสนองในเรื่องของเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติอย่างเมืองป่าตอง”

ภาพรวมการท่องเที่ยว

“ภาพรวมป่าตองหลังโควิด-19 ผ่อนคลาย มีการขยับขยายขึ้น แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นหน้าโลว แต่เราก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวอินเดีย และยังมีชาวยุโรปอเมริกันที่เริ่มทยอยมา ชาวรัสเซียมาบ้างแม้จะน้อยลง”

“ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและการจ้างงาน ทำให้คนมีงานทำ และดำเนินชีวิตในช่วงของเศรษฐกิจวิกฤติอย่างตอนนี้ได้ เริ่มมีความหวังในโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตกันต่อไปได้มากขึ้น” นายปรีชาวุฒิ กล่าว

“นอกจากนี้เรายังมีการพัฒนาในการปรับตัวในเรื่องของธุรกิจหลังโควิด-19 เพื่อรองรับการให้บริการและการทำธุรกิจ ที่ต้องป้องกันโรคไปด้วยพร้อม ๆ กัน มีการเข้มงวดเรื่อง Social distancing เจลล้างมือที่ต้องมีบริการไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยว จากภาพรวมก็น่าจะทำให้ประเทศเรามีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น มีความพร้อม มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น”

ความพร้อมด้านสาธารณสุขและปัญหาเงินเฟ้อ

นายปรีชาวุฒิ ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงเข้มงวดกับมาตรการสาธารณสุข ในส่วนของนักท่องเที่ยวเองก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

“ตอนนี้เรามีความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ร่วมกับโควิด-19 ได้มากขึ้น แต่ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องตระหนักว่าเรายังไม่สามารถจัดการโควิดได้ถึง 100% ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เรายังต้องอยู่ในโลกของโควิด-19 ตราบใดที่เรายังไม่สามารถเอาชนะมันได้อย่างเบ็ดเสร็จเรียบร้อย”

“ในขณะที่ทุกคนกำลังปรับตัวกับการดำรงชีวิตแบบนิวนอร์มอล อีกเรื่องที่กังวลก็จะเป็นเรื่องของเงินเฟ้อ เศรษฐกิจ สินค้าและบริการที่มีราคาแพงขึ้น น้ำมันหรือต้นทุนในการขนส่ง ที่จะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น”

“เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบการเองกำลังได้รับกระทบ ในเรื่องของค่าแรงค่าของชีพที่สูงขึ้น ค่าน้ำค่าไฟที่เกี่ยวกับพลังงาน คงต้องฝากภาครัฐให้ไปช่วยในเรื่องของการจัดการเงินเฟ้อ โดยเฉพาะเรื่องของราคาสินค้าที่จำเป็น เพื่อจะลดภาระผู้ที่เป็นแรงงานและเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ อยากให้ราคาสินค้าปรับลดลงอย่างรวดเร็วเพราะประชาชนค่อนข้างจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่