หวิดสลด! ตร.สอบสาเหตุเรือนำเที่ยวไฟไหม้จมทะเลมิดลำ นทท.พร้อมลูกเรือ 36 ชีวิตปลอดภัย

กระบี่ - วันนี้ (25 มี.ค. 61) ทัพเรือภาคที่ 3 (ทรภ.3) รายงานว่า เมื่อเวลา 00.30 น. ศรชล.เขต 3 ได้รับแจ้งจากศูนย์นพรัตน์จังหวัดกระบี่ ว่ามีเรือนำเที่ยวชื่อชลธาราบีช เกิดเหตุไฟไหม้ บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 7 ไมล์ จากเกาะห้าใหญ่ จว.กระบี่ มีนักท่องเที่ยวและลูกเรือเป็นคนไทยจำนวน 36 คน ได้รับการช่วยเหลือจากเรือสกูบ้าเน็ต

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอาทิตย์ ที่ 25 มีนาคม 2561, เวลา 19:41 น.

และนำนักท่องเที่ยวและลูกเรือทั้งหมดเดินทางเข้าเทียบท่าเรือเอเชียมารีนา ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย โดยเรือลำที่ประสบเหตุได้จมลงเมื่อเวลา 05.00 น. ที่ ละติจูด 7 องศา 31 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด 98 องศา 49 ลิปดา ตะวันออก
จากนั้น ศรชล.เขต 3 ได้ประสาน สนง.เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 แจ้งให้เรือต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบทราบเพื่อป้องกันอันตรายจากการเดินเรือ รวมทั้งประสานเจ้าของเรือในการกู้เรือต่อไป

ด้านศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ, จภ.5 (กรมเจ้าท่า) รายงานเพิ่มเติมว่า เหตุเกิดในเส้นทางเดินเรือระหว่างเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล - เกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. โดยเรือลำที่ประสบเหตุเป็นเรือสัญชาติไทย ชื่อชลธาราบีช ของบริษัท ซี.ทีอาร์. ทรานสปอร์ต แอนด์ไดฟ์วิ่ง ประเภทเรือกลเดินทะเล ใช้บรรทุกผู้โดยสาร ขนาด 82.54 ตันกรอส ยาว 23.85 ม. กว้าง 6.70 ม. มีผู้ควบคุมเรือชื่อนายมงคล นิฤนาท ผู้ควบคุมเครื่องจักร ชื่อ นายวิทยา ศรีสวัสดิ์

รายงานระบุว่า เรือชลธาราบีชได้เดินทางออกจากท่าเรือมารีน่า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณคลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. เวลา 22.00 น. เพื่อนำนักดำน้ำไปยังเกาะพีพี เกาะห้า จ.กระบี่ และเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล มีคนประจำเรือ 7 นาย และนักท่องเที่ยวชาวไทย 29 คน กระทั่งเมื่อเวลา 00.30 น. ระหว่างที่เรือกำลังมุ่งหน้าจากเกาะหลีเป๊ะสู่เกาะพีพี ตัวเรือได้เกิดเพลิงไหม้และไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ นายเรือจึงตัดสินใจสละเรือใหญ่ และวิทยุขอความช่วยเหลือจากเรือที่อยู่ใกล้เคียง ส่งผลให้เรือชลธาราบีชถูกไฟไหม้ จมลงสู่ท้องทะเลในลักษณะมิดลำ ไม่มีผู้สูญหายหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เวลาต่อมา พ.ต.ท.อรรถพงษ์ แสนใจวุฒิ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ พร้อมชุดสืบสวน ส.ทท.3 นำตัวนายมงคล อายุ 50 ปี และนายวิทยา อายุ 46 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เกาะลันตา หลังเกิดเหตุ ทำให้ลูกเรือและนักท่องเที่ยวต้องหนีเอาชีวิตรอด ก่อนเรือสคูบ้าเน็ต ของเอกชนเข้าทำการช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวและลูกเรือรวม 36 คน ขึ้นเรือและเดินทางกลับไปยัง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

นายมงคลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปดำน้ำท่องเที่ยวในทะเลแถบฝั่งอันดามัน และระหว่างจะเดินทางกลับมายังภูเก็ต มาถึงที่เกิดเหตุ เรือได้เกิดกลุ่มควันและเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องเครื่อง จึงได้ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง จากนั้นได้ปล่อยแพช่วยชีวิตที่อยู่ประจำเรือและให้นักท่องเที่ยวลงไปอยู่ในแพดังกล่าว ทำให้ไม่มีใครลอยคอกลางทะเลและแจ้งได้ขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผ่านสถานี จส.100 ก่อนที่เรือเอกชนจะเข้าช่วยเหลือปลอดภัยทุกคน ไม่มีผู้บาดเจ็บ มีเพียงทรัพย์สินต่าง ๆ และเรือได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุไฟไหม้นั้นยังไม่ทราบสาเหตุ

เบื้องต้น พ.ต.ท.อรรถพงษ์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันกระทำการประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำกัปตันเรือและนายช่างเครื่อง รวมทั้งนักท่องเที่ยว เพื่อรวบรวมหลักฐานและรอการพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้เรือต่อไป

รายงานเพิ่มเติม: เอกภพ ทองทับ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่