และสำหรับนาย Wu Di หรือวุดี้ ผู้ก่อตั้งและผู้คอยให้การผลักดันอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ ICO ได้มีบทบาทมากยิ่งขึ้น และทำให้ความฝันในระยะยาวของเขาเป็นจริง บนหนทางไปสู่ความสำเร็จให้ผู้คนได้มีเสรีภาพส่วนบุคคลโดยแท้จริง
โอจูทีเพิ่งเปิดตัวไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้กลายมาเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด จากรายงานที่ว่า กว่า 84 ล้านเหรียญของโอจูทีถูกขายออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำเงินมากถึง 125 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่มากขึ้นตามลำดับหลังการเปิดตัว
ICO สร้างขึ้นบนรากฐานที่แข็งแรงด้วยกลุ่มของเจ้าของหรือผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์กว่า 105 แห่งในภูเก็ต นับเป็นการเริ่มดำเนินการของกลยุทธ์แบบ three-pronged หรือข้อตกลงเพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกได้รับความมั่นใจในมูลค่าของเหรียญโอจูทีและสามารถใช้จ่ายได้ในชีวิตจริง
“นี่เป็นเพียงขั้นแรกในการที่เราจะพัฒนาโปรเจคของพวกเรา ซึ่งเราจะนำเงินจากขั้นตอนแรกนี้ไปใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไป” วุดี้ กล่าว
“ในขั้นต่อไป คือขั้นตอนที่สองเราจะเริ่มซื้อโปรเจค ซื้อโรงแรม แบรนด์โรงแรมหรือแม้แต่บริษัทรับจัดการบริหารโรงแรม ที่จะทำให้ขยายไปถึงความสำเร็จที่เหรียญของเราสามารถใช้ได้ในชีวิตจริง และในขั้นที่สาม เราจะใช้เงินเพื่อการลงทุนกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ ร้านอาหาร สปา โรงแรม และธุรกิจท่องเที่ยว” เขากล่าวเสริม
นักลงทุนทางการเงินต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2000 และอายุยังไม่ถึง 34 ปี อย่าง วุดี้ ที่กำหนดเส้นทางของเขาเองอย่างแน่ชัดและทรัพย์สมบัติมากมาย ทั้งยังได้เล็งเห็นและรวมเอาบล็อกเชน (Blockchain) และ คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrencies) เสมือนเป็นการเปลี่ยนทิศทางเกมทางการเงินของโลก
“ผมเคยเริ่มทำธุรกิจมามากมาย เปิดบริษัทมาหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น IT เซอร์วิส เว็บเซอร์วิส เกมออนไลน์ และเว็บหาข้อมูล และก็ทำเงินได้มากเลยจากธุรกิจพวกนั้น ผมเข้าร่วมกลุ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ ที่ที่ผมได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเวลาเดียวกันผมสนใจด้านการศึกษาเพื่อจะได้นำเด็กออกจากกิจวัตรประจำวันของพวกเขา”
“นี่เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นความสนใจของผม เรากำลังถูกหลอกให้เชื่อว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นั้นโลกแห่งความจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วหากคุณก้าวออกจากตรงนั้น คุณจะได้เริ่มใช้ชีวิตจริงๆ รวมถึงการศึกษาและข้อมูลด้านอื่นๆ คุณกำลังถูกล้างสมองและเดินไปสู่เส้นทางที่กำหนดเอาไว้ และท้ายที่สุดคุณจะกลายเป็นเพียงทาสหรือกลุ่มคนคนทำงานหนักค่าแรงต่ำ”
“การศึกษาทั่วโลกถูกควบคุมโดยสิ้นเชิงโดยรัฐบาล มันคือระบบการล้างสมอง ไม่ใช่ระบบการศึกษาที่แท้จริง เป็นระบบที่วาดกรอบคุณเดินไปบนทางที่พวกเขาต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ”
“ซึ่งผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ทำงานเยี่ยงทาส ไม่ว่าพวกเขาจะรู้ตัวหรือไม่ ผมอยากช่วยพวกเขา และนั่นคือแรงบันดาลใจของผม ที่เริ่มต้นเร็วมากๆ และผมก็ได้ทำมันเรื่อยมาเป็นเวลานาน” วุดี้ อธิบาย
“ผมต้องการจะเริ่มระบบเพื่อนำผู้คนออกมา เพื่อให้โอกาสพวกเขาในการเรียนรู้ทางที่เขาต้องการ ด้วยการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องดำรงชีวิตด้วยการเป็นมนุษย์เงินเดือน อีกต่อไป พวกเขาสามารถใช้เวลาว่างเพื่องานอดิเรก เดินทางไปท่องเที่ยวไปทุกที่ เรียนรู้สิ่งที่พวกเขาต้องการ และให้เขาเห็นว่าคนเราสามารถเรียนรู้จากชีวิตจริงได้มากเพียงใด โดยปราศจากขีดจำกัดที่ว่าคนอื่นต้องการจะสอนอะไรคุณ”
“การแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิทัลจากมือผู้จ่ายถึงมือผู้รับนั้น ถือเป็นการปฏิวัติทางการเงินที่กำลังจะเปลี่ยนโลกทั้งหมดจากราก การทำธุรกรรมทางการเงินด้วยการผ่านระบบเงินตราด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนถือเป็นการปฏิวัติอย่างก้าวกระโดดเพราะมันทำให้คุณขยับห่างออกมาจากธนาคารได้ ระบบธนาคารไม่ได้ออกแบบเพื่อให้คุณมีอิสรภาพทางการเงิน เพราะเป้าหมายของธนาคารก็คือ การทำเงินจากคุณให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้” วุดี้ เสริม
“เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผมเคยทำในส่วนของการศึกษา สิ่งที่ผมทำได้นั้นจำกัดมากๆ เพราะอุปสรรคจากกรอบการศึกษาแบบดั้งเดิมที่มีอิทธิพลอย่างมาก ทั้งยังยิ่งใหญ่และทรงพลัง ซึ่งกำลังอันน้อยนิดของผมนั้นไม่สามารถส่งผลต่อผู้คนได้เพียงพอในการก้าวสู่จุดที่ผมต้องการ ผมอยากให้ผู้คนบนโลกนี้เป็นอิสระ มันคือความฝันของผมเสมอมา ซึ่งเมื่อก่อนนั้นผมยังทำไม่ได้”
