อียูยัน ’แอสตรา’ ไม่เกี่ยวลิ่มเลือดอุดตันหลังหลายประเทศแห่ระงับ

องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันว่าไม่พบข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เชื่อมโยงกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีน

โพสต์ทูเดย์

วันศุกร์ ที่ 12 มีนาคม 2564, เวลา 14:04 น.

ภาพ JOEL SAGET / AFP

ภาพ JOEL SAGET / AFP

หลังจากที่หลายประเทศแห่ระงับการใช้วัคซีนดังกล่าวเนื่องจากพบว่าประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา และยังมีรายงานว่าชาวอิตาลีวัย 50 ปีเสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำหลังได้รับวัคซีน โพสต์ทูเดย์ รายงาน 

โดย EMA ระบุว่ายังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันเป็นผลข้างเคียงมาจากการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามประโยชน์ของวัคซีนยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงและยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวยังสามารถใช้งานต่อไปได้ ขณะที่กำลังเร่งตรวจสอบกรณีของอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้น

ด้านแอสตราเซเนกากล่าวว่าวัคซีนดังกล่าวได้รับการศึกษาทดลองโดยมั่นใจว่ามีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยซึ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ในบรรดาชาวยุโรปที่ได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาทั้งหมด 5 ล้านคน มีเพียง 30 คนเท่านั้นที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ทางด้าน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อศิริราช ชี้ภาวะลิ่มเลือดไม่ใช่ผลข้างเคียงของวัคซีนใด ๆ ที่เคยมีในโลก คาดเหตุที่เกิดในยุโรปไม่เกี่ยวกับวัคซีนแอสตราเซเนกา แต่เห็นด้วยชะลอการฉีดออกไปก่อน

ศ.พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์เด็ก (โรคติดเชื้อ) โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ กล่าวว่า นักวิชาการเห็นตรงกันว่าภาวะลิ่มเลือดไม่ใช่ผลข้างเคียงของวัคซีนใด ๆ ที่เคยมีในโลกนี้ ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นในยุโรปจึงไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา แต่ไม่อยากพูดจนกว่าจะมีผลสอบสวนออกมา

ด้าน ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า “เห็นด้วยที่กระทรวงสาธารณสุขชะลอการฉีดวัคซีนวิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา ออกไปจนกว่าจะได้ข้อมูลยืนยันชัด เพราะสภานการณ์ในประเทศไทยก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นรอไม่ได้ ส่วนตัวอายุ 81 ปี ไม่ได้กลัวการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา วันนี้ก็เตรียมตัวมาฉีดถ้าให้ตัวเองฉีดวันนี้ก็พร้อม แต่เพื่อไม่ให้สับสน กังวลกับข้อมูล การรอให้ข้อมูลชัดก่อนค่อยฉีดให้ประชาชนก็นับว่าดีกว่า”

ข้อมูลเพิ่มเติม: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่