นายนรภัทร กล่าวว่า เกาะราชาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม มีการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้พื้นที่บริเวณชายหาดอ่าวกล้วยและใต้ทะเล ได้รับผลกระทบของขยะจากนักท่องเที่ยว รวมถึงขยะที่ลอยมากับสายน้ำในช่วงฤดูมรสุมเป็นจำนวนมาก ทำให้กระทบกับระบบนิเวศน์และความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลและปะการัง ซึ่งหากไม่มีการจัดเก็บจะทำให้ความสวยงามตามธรรมชาติลดน้อยด้อยลง
จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนควรร่วมกันให้ความร่วมมือเพื่อรักษาการท่องเที่ยวมีคุณภาพยั่งยืน และเพื่อการสร้างจิตใต้สำนึกและความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐและเอกชน
ด้านนายอรุณ โสฬส นายกเทศบาลตำบลราไวย์ ได้นำทีมอาสาสมัครและนักดำน้ำจิตอาสา ร่วมกับปฏิบัติภารกิจ
"เราทำกิจกรรมเวลาประมาณ 08.00-16.00 น. ขยะที่เก็บได้ทั้งหมดนั้นมีน้ำหนักถึง 506 ก.ก. โดยนับเป็นชิ้นได้ 2,291 ชิ้น ซึ่งเป็นขยะที่เกิดจาก กิจกรรมชายฝั่งและการพักผ่อน 2,007 ชิ้น แบ่งเป็นขวดพลาสติก 811 ชิ้น ขวดแก้ว 150 ชิ้น กระป๋องเครื่องดื่ม 51 ชิ้นฝา, จุกขวด 265 ชิ้นช้อน,ส้อม 60 ชิ้น ของเล่น 5 ชิ้น แก้วน้ำพลาสติก 290 ชิ้น รองเท้า,เสื้อผ้า 171 ชิ้น ถ้วยโฟม กล่องโฟม 108 ชิ้น หลอด ที่คนเครื่องดื่ม 80 ชิ้น แปรงสีฟัน 3 ชิ้น เทียนไข 12 ชิ้น ไม้กวาด 1 ชิ้น" นายอรุณ กล่าว
"ขยะที่เกิดจากกิจกรรมทางการประมงและการเดินเรือ 11 ชิ้น แบ่งเป็น กล่องใส่เหยื่อตกปลา 1 ชิ้น หลอดไฟ 5 ชิ้นทอวน 3 ชิ้น ขวดน้ำมันหล่อลื่น 2 ชิ้น ขยะที่เกิดจากกิจกรรมเกี่ยวกับการสูบ 271 ชิ้น แบ่งเป็นบุหรี่ ก้นบุหรี่ 30 ชิ้น ไฟแช็ก 236 ชิ้น และซองบุหรี่ 5 ชิ้น และขยะที่เป็นอุปกรณ์การแพทย์ 2 ชิ้น แบ่งเป็น เข็มฉีดยา 1 ชิ้น สำลี 1 ชิ้น"
“หากประชาชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเก็บขยะแบบนี้ สามารถติดตามการจัดกิจรรมครั้งต่อไปได้ ซึ่งจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง”
ทั้งนี้ ขยะที่เก็บได้ทั้งหมดได้มีการคัดแยกจากต้นทาง โดยเจ้าหน้าที่ของ สสภ.15 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จาก สบทช.6 และ อบจ.ภูเก็ต ก่อนที่จะนำกลับเข้าฝั่งเพื่อเข้าสู่เตาเผาขยะของเทศบาลนครภูเก็ต ส่วนขยะที่สามารถ recycle ได้จะนำไปมอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปแปรสภาพหรือนำไปใช้ประโยชน์ในทางอื่นๆ ต่อไป