ช่วงบ่ายวันนี้ (12 ก.ย.) เซลิน่า เดินทางเข้าร้องเรียนร้องทุกข์ต่อ นายสุรเชษฐ์ วรวงศ์ นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความเป็นธรรม โดยเธอเขียนในบันทึกคำร้องทุกข์ว่าถูก นายดิษยเดช กนกวิริยะสันติ พร้อมพวกนำกำลังเข้าล้อมรถยนต์ของเธอและได้นำตัวบุตรสาวไปจากความดูแล โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความหวาดกลัวและเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่บุตรสาว โดยเธอระบุอีกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ณ ร้านขนมจีนสะพานหิน
โดยก่อนหน้านี้ เซลิน่าได้ไปแจ้งบันทึกข้อความไว้กับ พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย ฉุ้นย่อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตแล้ว ก่อนที่จะเดินทางไปขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมฯ จากนั้นเธอและพ่อก็ได้เดินทางกลับไปยัง สภ.เมืองภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อทำการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
เซลิน่าให้สัมภาษณ์ว่าตนมีปัญหากับสามีมาตลอด เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาพร้อมกับลูกสาววัย 1 ขวบ 4 เดือน โดยไม่ได้บอกกับฝ่ายชาย พร้อมทั้งปิดกั้นทุกช่องทางการสื่อสารและกลับมายังจังหวัดภูเก็ต ผ่านไป 1 สัปดาห์พ่อของลูกได้ติดต่อผ่านมาทางพ่อของตนและเดินทางมาที่ภูเก็ต มีการพูดคุยกันแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จากนั้นฝ่ายชายจึงได้รับตัวลูกกลับไป และบอกเพียงว่าให้ไปเจอกันที่โรงพัก เหลือไว้เพียงทนายของฝ่ายชายให้สานต่อในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำเซลิน่าและคุณพ่อเพิ่มเติม ซึ่งจะได้ทำการประสานคู่กรณีเข้ามาให้ปากคำ เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ด้านนายสุรเชษฐ์ นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางศูนย์ฯได้รับคำร้องของ น.ส.เซลิน่าเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะได้ประสานอีกฝ่ายเข้ามาพูดคุยและตกลงกันให้ได้ต่อไป