เอกชนเสนอทางออกโควิดสู่การเปิดภูเก็ตเสรี

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 64 ภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต โดย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตนำโดย นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, นางสาวนันทิดา อติเศรษฐ์ อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนายธนวัต อ่องเจริญ เหรัญญิก สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เสนอ Shaping our Future แนวทางสู่อนาคตจังหวัดภูเก็ต แก่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต พิจารณาเพื่อเปิดจังหวัดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเสรี

ทั้งนี้ได้มีการนำเสนอตัวอย่างของจีน, อิสราเอล และอังกฤษ ที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยเฉพาะโมเดลประเทศอังกฤษสามารถฉีดวัคซีนได้ 90% ระบบสาธารณสุขเพียงพอ ซึ่งไดัเปิดประเทศแล้ว

ส่วนสิงคโปร์ยังไม่เปิดประเทศจะเปิดตามภูเก็ต มีการฉีดวัคซีนเท่าภูเก็ต และสิงคโปร์จะเปิดประเทศในวันที่ 9 ก.ย. นี้ กรณีศึกษาการกระจายวัคซีนอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ ของอังกฤษมากกว่าอเมริกา ซึ่งภูเก็ตต้องเดินแบบอังกฤษให้ได้ ต้องให้กลุ่ม 608 เข้าถึงวัคซีนให้มากที่สุด

ภาคเอกชน เสนอว่า การอยู่ร่วมกับโควิด สำหรับพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนมากพอ ต้องให้ความสำคัญกับตัวเลขการเข้าโรงพยาบาลและอัตราการตาย ต้องตรวจคนที่มีอาการต้องฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด เพื่อป้องกันการป่วยหนัก โดยมี Action Plan ดังนี้ Vaccine Rollout Plan ทำการสำรวจคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนให้ได้ 100% ในกลุ่มเสี่ยง ภายในเดือนกันยายน

ฉีดวัคซีนให้กลุ่มแรงงานใหม่ ที่ย้ายถิ่นให้ได้ 100% และเปิดให้มีการฉีดวัคซีนโดยไม่มีเงื่อนไข ฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้ทุกคน บุคคลที่เข้าจังหวัดภูเก็ตต้องได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น การรับผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลและอยู่บ้าน การจัดการผู้เสี่ยงสูง การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อแบบดิจิทัลอย่างเป็นระบบ และการวิเคราะห์การพยากรณ์การระบาด

สิ่งที่ต้องการ คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 400,000 โดส วัคซีนไฟเซอร์ 70,000 โดส สำหรับกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หรือกลุ่ม 608 และเด็ก เสนอการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนัง (intradermal injection: ID)โดยใช้วัคซีน 20% ของที่ใช้ปกติเป็น บูสเตอร์หรือ ใช้เป็นเข็ม 1 และ 2 ใน คนที่ยังไม่ได้วัคซีน

ซึ่งโครงการ Phuket Sandbox Vaccine โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กำลังทำวิจัยการฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยวิธี ID ให้กับคนที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม ภายในก.ย.นี้ โดยใช้แอตร้าเซนเนก้า 20% ของปกติ หลังสรุปผลวิจัยจะทดสอบครั้งใหญ่ และเป็นทางออกวัคซีนของประเทศ

แผนงานดำเนินการเพื่ออยู่กับโควิด คือ ระบบการจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิดแบบรวมศูนย์,ระบบการยืนยันผู้ไม่ได้รับวัคซีนและระบบจอง, แผนงานกระตุ้นการฉีดวัคซีน มี แคมเปญชวนกันฉีด แคมเปญ Vaccine Check แคมเปญสร้างแรงจูงใจให้ผู้สูงอายุ แคมเปญวัคซีน Delivery

เป้าหมายคือ 1.ธุรกิจร้านค้ากลับมาดำเนินธุรกิจได้ 100% 2.ชาวภูเก็ตกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติและปลอดภัย 3.เปิดการเดินทางระหว่างประเทศในรูปแบบนิวนอร์มอล 4.มูลค่าทางเศรษฐกิจ เป้า ธ.ค.64 - มี.ค. 65 จำนวน 210,000 ล้านบาท 5. จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมา 50% ของปี 2019 เป้า ธ.ค. 64 - มี.ค. 65 จำนวน 3,500,000 คน

"จังหวัดภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบเสรีในวันที่ 1 ธ.ค. 64 เมื่อคนภูเก็ตมีภูมิคุ้มกันจากเข็มที่ 3 และนักท่องเที่ยวต้องแสดง Vaccine Certificate ตรวจ Rapid Test 1 ครั้ง ในการเข้าประเทศ"

ทั้งนี้ ภาคเอกชนจะช่วยทำข้อมูลลงทะเบียนการฉีดวัคซีน จากระบบที่มีบนมือถือของ อสม.ทุกคน แล้วสามารถทำนัดฉีดวัคซีนได้ จะทำให้ระบบสาธารณสุขเดินต่อได้ ไม่มีภาระ

"การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มาเป็นเวลา 2 เดือน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนกว่า 2 หมื่นคน เราไปต่อไม่ได้ โรงแรมที่เปิดอยู่ก็ขาดทุน ถ้าเปิดฟรีด้อมเดย์ได้ จะมีนักท่องเที่ยวกลับมา การฉีดวัคซีนให้คนในภูเก็ตได้ครบได้ทันเวลา จากนั้นสามารถเปิดภูเก็ตเสรีได้ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้"

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก