แถลงข่าว 2 ผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ต ผู้การเผยสืบต่อกรณีปลอมพาสปอร์ต ขยายผลตรวจสอบ ตม.

ภูเก็ต – วันนี้ (21 พ.ค. 60) เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือนายซานดีป ซิง อายุ 30 และ นายราจ คูมาร์ อายุ 35 ปี ชาวอินเดีย ผู้ต้องหาในคดีปลอมพาสปอร์ต โดยมีชื่อปรากฏในพาสปอร์ตปลอมเป็นชาวโปรตุเกส

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤษภาคม 2560, เวลา 16:58 น.

 เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (20 พ.ค. 60) เวลาประมาณ 6.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู ได้รับตัวมาจาก ตม.สนามบินนานาภูเก็ต ก่อนจะหลบหนีไปในเวลาประมาณ 8.00 น (อ่านเพิ่มเติม คลิก)จนกระทั่งถูกจับตัวได้ในเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกัน จากการบูรณาการและปูพรมค้นหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตอง และ สภ.สาคู ขณะกำลังเดินอยู่ในบริเวณตลาดโอทอป ต.ป่าตอง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ใช้หนังสือเดินทางของประเทศโปรตุเกส เดินทางไปยังเมืองโตรันโต ประเทศแคนาดา แต่ระหว่างที่ไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินประเทศเกาหลีใต้ ได้ถูกประเทศเกาหลีใต้ปฏิเสธการให้เข้าเมืองโดยแจ้งว่าทั้งคู่ได้ใช้หนังสือเดินทางปลอม และถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 20 พ.ค. ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนจะอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอ วิ่งหลบหนีเข้าไปทางป่าด้านหลังของ สภ.สาคู

เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู จึงได้ออกตามหาผู้ต้องหาบริเวณใกล้เคียงจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้เรียกรถรับจ้างสาธารณะ(แท็กซี่มิเตอร์) จากบริเวณร้านกาแฟเพเรลเนียล ซ.ในยาง 16 ต.สาคู เพื่อไปส่งที่หาดป่าตอง เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวจนทราบว่านายวิฑูรย์ พรหมชัยศรี ผู้ขับขี่รถแท็กซี่มิเตอร์ ได้ไปส่งผู้ต้องหาที่ซ.ไสน้ำเย็น หาดป่าตอง

นายวิฑูรย์ยืนยันว่า เครื่องแต่งกายและรูปพรรณของผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ไปส่งที่ป่าตองนั้นตรงกับผู้ต้องหาที่หลบหนี เจ้าที่ตำรวจสภ.สาคู และสภ.ป่าตองจึงได้ร่วมกันตรวจสอบวงจรปิดในพื้นที่ จนพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองน่าจะอยู่บริเวณตลาดโอทอป ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบออกติดตามหาผู้ต้องหาทั้งสองในขณะที่กำลังเดินหาอาหารรับประทานที่ตลาดโอทอปดังกล่าว

“ผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ได้ติดต่อเครือข่ายเพื่อปลอมหนังสือเดินทางจากเครือข่ายเอเย่นในต่างประเทศและไทย ในราคาเล่มละ 2,000,000 รูปี หรือประมาณ 1,200,000 บาท เพื่อให้ช่วยพาไปทำงานในประเทศแคนาดา โดยทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อประมาณกลางเดือนมี.ค. ผ่านมาทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้หนังสือเดินทางตัวจริง ก่อนเดินทางต่อมาพักที่จังหวัดภูเก็ต ในระหว่างที่รอทางเครือข่ายจะนำหนังสือเดินปลอมมาส่งมอบให้ที่ จ.ภูเก็ต หลังจากได้หนังสือเดินทางปลอมจึงเดินทางจากจังหวัดภูเก็ตต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยใช้หนังสือเดินทางตัวจริงออกไปก่อน ผ่านทางด่าน ตม.จังหวัดสตูล และย้อนจังหวัดภูเก็ตอีกครั้งด้วยหนังสือเดินทางปลอม ก่อนจะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ค. ไปยังประเทศแคนาดา” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไม่มีส่วนพัวพันกับขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีระพลยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองในฐานะพยานเพื่อทำการสอบสวนเกี่ยวกับขบวนการปลอมพาสปอร์ตและแนวทางการหลบหนีออกจากประเทศไทยต่อไป รวมทั้งจะมีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู ถึงการบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 หลบหนีไปได้

“เราจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างแน่นอน ถึงแม้เราจะสามารถ ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลับมาได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้กระทำการบกพร่องต่อหน้าที่ไปแล้ว ฐานที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ และแน่นอนว่าเราจะมีการติดต่อไปทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่าตราประทับเข้าออกมีความเป็นมาอย่างไร” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่